แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายความโจทก์ได้รับแจ้งจากบุคคลซึ่ง มอบฉันทะให้นำคำร้องขอเลื่อนคดีไปยื่นต่อ ศาลว่าศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีนัดสืบพยานจำเลยใหม่ เวลา 13.30 นาฬิกา เป็นเพียงการได้รับ คำบอกเล่าจากตัวแทนโอกาสผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ ง่าย แต่ ทนายความโจทก์ได้ ใช้ ความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนโดย ไปที่ศาลตรวจ ดู บัญชีนัดความที่ประกาศให้ประชาชนทราบก็ระบุว่าศาลนัดเวลา 13.30 นาฬิกา ตรงกันการที่ศาลสั่งจำหน่ายคดีในวันนัดนั้นตั้งแต่ เวลา 9.50 นาฬิกาอ้างว่าโจทก์จงใจขาดนัดพิจารณาเพราะตาม รายงานกระบวนพิจารณาระบุวันนัดสืบพยานจำเลยไว้เวลา 9 นาฬิกา จึงเป็นการสั่งโดย ผิดหลงในข้อที่มุ่งหมายให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วย ความยุติธรรมโจทก์ขอให้เพิกถอนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นทำการชี้สองสถานแล้วกำหนดให้จำเลยนำสืบก่อน ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก โจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายความไปยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานจำเลยใหม่ในวันที่ 14 กันยายน2530 เวลา 9 นาฬิกา ในวันนัดที่เลื่อนมาใหม่ดังกล่าว โจทก์ไม่มาศาลตามเวลานัดศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณา ให้จำหน่ายคดีโจทก์ออกจากสารบบความโจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่ได้จงใจขาดนัด ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งที่ให้จำหน่ายคดีและขอให้พิจารณาคดีต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาว่าศาลจะเพิกถอนคำสั่งในกรณีที่สั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาให้จำหน่ายคดีได้หรือไม่โจทก์อ้างในคำร้องว่าทนายความโจทก์มอบฉันทะให้บุคคลอื่นนำคำร้องขอเลื่อนคดีไปยื่นต่อศาล แล้วบุคคลนั้นกลับมาแจ้งต่อทนายความโจทก์ว่า ศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 14 กันยายน 2530 เวลา 13.30 นาฬิกา ถึงวันนัดเพื่อความแน่นอนเวลาเช้า ทนายความโจทก์ไปตรวจดูบัญชีนัดความที่ศาลอีกครั้งหนึ่งบัญชีนัดความของศาลระบุว่า คดีนี้ศาลนัดเวลา 13.30 นาฬิกา เมื่อถึงเวลา 13.30 นาฬิกา ทนายความโจทก์ไปศาลปรากฏว่าศาลได้สั่งจำหน่ายคดีไปแล้วตั้งแต่เวลา 9.40 นาฬิกา อ้างว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาเพราะตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลระบุวันนัดสืบพยานจำเลยไว้เวลา9 นาฬิกา เห็นว่า ทนายความโจทก์เพียงแต่ได้รับคำบอกเล่าจากตัวแทน โอกาสผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ง่ายแต่ทนายความโจทก์ได้ใช้ความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนโดยไปตรวจดูบัญชีนัดความของศาลที่ประกาศให้ประชาชนทราบ ปรากฏว่าบัญชีนัดความของศาลก็ระบุว่าคดีนี้ศาลนัดเวลา 13.30 นาฬิกา ตรงกับเวลาที่ตัวแทนของทนายความโจทก์แจ้งไว้ดังนั้น ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังโจทก์ฟ้อง โจทก์ก็ไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณาที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและสั่งให้จำหน่ายคดีนั้นเป็นการสั่งโดยนัดผิดหลงในข้อที่มุ่งหมายให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความยุติธรรม โจทก์มีสิทธิขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีชอบแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ