แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อย่างไรเรียกสมรู้นำเจ้าทรัพย์ให้มาพักที่บ้านจำเลยอยู่ในขณะประชุมปรึกษาเรื่องปล้น เอาเรือไปรับผู้ร้ายมาแล้วพาไปสูบฝิ่นก่อนลงมือปล้นเวลาให้ อาวุธก็อยู่รู้เห็นด้วย เสร็จจากการปล้นแล้วนำเรือที่ไปปล้นส่งคืนเจ้าของในที่สุดได้รับส่วนแบ่งด้วย ฟังได้ว่าสมรู้ในการกระทำผิด วิธีพิจารณาอาชญา คำซัดทอด คำซัดทอดโดยลำพังแล้วฟังไม่ได้ เว้นแต่มีพะยาน ประกอบดุลยพินิจในการกำหนดโทษในคดีที่ฎีกาข้อเท็จจริงได้นั้น ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขดุลยพินิจของศาลล่างในการกำหนดอัตราโทษได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์และสมรู้ในการปล้นทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำตัดสินศาลเดิมฉะเพาะ ด.จ.ว่าพะยานหลักฐานโจทก์ไม่พอจะชี้ขาดว่ามีความผิดฐานสมรู้นอกนั้นยืน
โจทก์ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๒ อ.ฎีกาในข้อที่ศาลลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีฉะเพาะตัว อ. เห็นว่ารูปคดีไม่มีทางจะรอดพ้นความผิดไปได้ ที่ศาลลงโทษมานั้นเป็นผลดีแล้ว ส่วน ด.จ.นั้นเมื่อพิจารณาเหตุผลหลายอย่างประกอบกันแล้วฟังลงโทษจำเลยฐานสมรู้ได้ คือ
(๑) ด.จ.ไปพาเจ้าทรัพย์มาพักบ้านจำเลย จีนเจ้าทรัพย์ชวนให้กลับก็ไม่กลับปล่อยให้กลับโดยลำพัง
(๒) ด.จ.เป็นญาติกับจำเลยบางคนอยู่ในขณะประชุมจะไปปล้นทรัพย์รายนี้
(๓) ด.จ.เป็นผู้นำเรือไปรับพวกจำเลยมาก่อนจะไปปล้นได้พาจำเลยบางคนไปสูบฝิ่น
(๔) เวลาประชุมได้ให้ปืนและให้ใช้เรือเป็นพาหนะ ด.จ. ได้รู้เห็นด้วย
(๕) เมื่อกลับจากปล้นได้นำเรือไปส่งคืนเจ้าของ
(๖) ด.จ. ได้แบ่งทรัพย์ที่ได้มาจากการปล้นด้วย ข้อนี้เป็นแต่คำชัดโดยลำพังแล้วฟังไม่ได้ แต่มีพะยานเหตุผลดังกล่าว แล้วข้างต้นประกอบกับพฤตติการณ์รวมเข้าแล้วย่อมสันนิษฐาให้เชื่อได้ว่า ด.จ. สมรู้อุปการะการกระทำผิด จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาล เดิมแต่แก้กำหนดโทษลงเป็น ๑๒ ปี