คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลจังหวัดพะเยาได้ออกหมายบังคับคดีตั้งจ่าศาลจังหวัดพะเยาเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่16/2528 ของศาลจังหวัดพะเยานั้น เป็นการตั้งบุคคลที่ดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาหาใช่ตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะไม่ฉะนั้นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาอยู่ในขณะออกหมายบังคับคดี ตลอดจนบุคคลที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาในเวลาต่อมา ย่อมเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งดังกล่าวจนกว่าการบังคับคดีจะเสร็จสิ้น เมื่อจำเลยย้ายมาดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาในขณะที่การบังคับคดีแพ่งดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งดังกล่าวตามหมายบังคับคดีที่ศาลจังหวัดพะเยาได้ออกไว้แล้ว โดยไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีตั้งจำเลยอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162,91 ที่แก้ไขแล้ว
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162 (ที่ถูกมาตรา 162(1)) ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามมาตรา 90ให้จำคุก 6 ปี แต่เห็นว่าตามคำรับของจำเลยในเอกสารหมาย ป.จ.6(ศาลอาญาธนบุรี) จำเลยได้ลุแก่โทษและพยายามบรรเทาผลร้าย นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย 4 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยต้องวินิจฉัยเพียงข้อเดียวว่า ขณะจำเลยปฎิบัติหน้าที่ขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 16/2528 ของศาลจังหวัดพะเยานั้น จำเลยถือเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลหรือไม่ ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวนี้ ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งได้ความว่า ศาลจังหวัดพะเยาได้ออกหมายบังคับคดีตั้งจ่าศาลจังหวัดพะเยาเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 16/2528 ของศาลจังหวัดพะเยา ตามหมายบังคับคดีฉบับลงวันที่ 16 สิงหาคม 2528 เอกสารหมาย ป.จ.4 (ศาลอาญาธนบุรี)จำเลยรายงานตัวเข้ารับราชการตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาเมื่อวันที่25 มีนาคม 2529 ตามเอกสารหมาย ป.จ.1 (ศาลอาญาธนบุรี) ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ศาลจังหวัดพะเยาได้ออกหมายบังคับคดีตั้งจ่าศาลจังหวัดพะเยาเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่16/2528 ของศาลจังหวัดพะเยานั้น เป็นการตั้งบุคคลที่ดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาหาใช่ตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะไม่ฉะนั้นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาอยู่ในขณะออกหมายบังคับคดีตลอดจนบุคคลที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาในเวลาต่อมาย่อมเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งดังกล่าวจนกว่าการบังคับคดีจะเสร็จสิ้น เมื่อจำเลยย้ายมาดำรงตำแหน่งจ่าศาลจังหวัดพะเยาในขณะที่การบังคับคดีแพ่งดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีแพ่งดังกล่าวตามหมายบังคับคดีที่ศาลจังหวัดพะเยาได้ออกไว้แล้ว โดยไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีตั้งจำเลยอีก ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษามาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share