แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาปรานีประณอมต้องมีหลักฐานเปนหนังสือ จะทำกันณะที่ใด-ก็ได้ วิธีพิจารณาแพ่ง ค่าเสียหาย เมื่อคู่กรณีฝ่ายหนึ่งทำผิดสัญญาปรานีประณอมอีกฝ่ายหนึ่งเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาได้ทีเดียว โดยไม่ต้องฟ้องขอให้บังคับตามสัญญาปรานีประณอมนั้น
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญายอมกันไว้ต่ออำเภอ มีใจความว่า ให้จำเลยเอาช้างพังหนุนกับลูกช้าพังหนุนตัวเมียมาทำสัญญให้โจทก์มีส่วนได้ในราคาช้างนั้นครั้งหนึ่ง จำเลยจะนำข้างนั้นมาทำสัญญายังอำเภอณะวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๐ บัดนี้จำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินราคาช้างจากจำเลย
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินว่า สัญญายอมใช้ได้ให้จำเลยส่งช้างรายพิพาทมาประมูลหรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ถ้าส่งไม่ได้ให้จำเลยใช้เงิน ๑๕๐๐ บาทแก่โจทก์
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า สัญญายอมที่อำเภอเปรียบเทียบจะมีผลใช้ได้เพียงใด เพราะเกินอำนาจอำเภอที่จะเปรียบเทียบ และโจทก์เรียกเงินเกินกว่าสัญญายอม
ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญายอมนี้ใช้ได้ตามประมวลแพ่ง ม.๘๕๐ – ๘๕๑ – ๘๕๒ และสัญญาปรานีประณอมนั้นจะทำที่ใดก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานเปนหนังสือ คดีนี้โจทก์จำเลยได้ทำยอมกันถูกต้องแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายในฐานที่จำเลยผิดสัญญาได้ทีเดียว โดยไม่ต้องของให้บังคับจำเลยทำตามสัญญายอม จึงตัดสินแก้ศาลล่าง ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๑๕๐๐ บาท