แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ และจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดแล้วนั้น โจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองได้ทันที
เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์เพราะกลฉ้อฉลเจตนาลวง หรือจงใจนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงของจำเลยที่ 2 และโจทก์อันจะเป็นผลให้สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์ตกเป็นโมฆะแล้วคดีจึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะให้งดการบังคับคดี
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงออกหมายบังคับคดีจำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยที่ ๑ ได้ฟ้องโจทก์ต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วหากศาลพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชนะคดีโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะบังคับคดีนี้แก่จำเลยที่ ๑ อีกต่อไป ฉะนั้น จึงขอให้ศาลชั้นต้นสั่งงดการบังคับคดีไว้เพื่อรอฟังคำพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๙๒(๒)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาว่ามีเหตุสมควรที่จะให้งดการบังคับคดีไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๒(๒) หรือไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ และจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งถึงที่สุดแล้ว เห็นว่าโจทก์ย่อมขอให้ศาลบังคับคดีแก่จำเลยทั้งสองได้ทันที จำเลยที่ ๑ อ้างว่า จำเลยที่ ๑ ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ก็เพราะจำเลยที่ ๑ ไม่ทราบว่า โจทก์ได้รับชำระหนี้รายเดียวกับหนี้ในคดีนี้ไปแล้ว หากจำเลยที่ ๑ ทราบ ก็จะไม่ทำยอมกับโจทก์นั้น เห็นว่าเป็นข้ออ้างของจำเลยที่ ๑ เพียงฝ่ายเดียว โจทก์ไม่ได้ยอมรับตามข้ออ้างของจำเลยที่ ๑ด้วย และยังเป็นคดีโต้เถียงกันอยู่ จึงไม่พอฟังได้ว่าจำเลยที่ ๑ ทำยอมในคดีนี้เพราะกลฉ้อฉล เจตนาลวง และจงใจนิ่งเสียไม่ไขข้อความจริงของจำเลยที่ ๒ และโจทก์อันจะเป็นผลให้สัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนี้ระหว่างจำเลยที่ ๑ กับโจทก์ตกเป็นโมฆะตามจำเลยกล่าวอ้าง ดังนั้นข้ออ้างของจำเลยที่ ๑ ตามคำร้องจึงยังไม่มีเหตุสมควรที่ศาลจะให้งดการบังคับคดีไว้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน