คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เหตุในลักษณคดี เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เปนผิดกฎหมายแล้ว ถึงแม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาศาลก็มีอำนาจตัดสินปล่อยได้,จำเลยให้การรับตามข้อหาก็ดี แต่ถ้าการกระทำนั้นไม่เปนผิดกฎหมายหมายแล้ว จะถือว่าจำเลยรับว่าทำผิดไม่ได้

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยมีน้ำตาลเมาไว้กินแลจำหน่าย ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลจังหวัดนนทบุรีตัดสินปรับนายเป้านกคุ้ม ๒๕ บาท นายเป้าทองบุญ ๑๕ บาท แต่มิได้อ้ากฎหมายมาตราใด โจทก์อุทธรณ์ว่าศาลลงโทษจำเลยเปาไป
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าน้ำตาลเมามีแอลกอฮอล์เจือปนอยู่ด้วยอันสามารถจะดื่มกินได้เช่นเดียวกับสุรา ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
โจทก์ฎีกาว่า ( ๑ )จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วย ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจปล่อยจำเลย ( ๒ ) น้ำตาลเมาเปนของที่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.เช่นเดียวกับสุรา ดังจะเห็นได้จากประกาศลงวันศุกร์เดือน ๗ ปีกุนลัปตศกศักราช ๑๒๓๗ ซึ่งห้ามมิให้ต้มกลั่นสุราแลน้ำตาลเมาต่าง ๆ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในฎีกาข้อ ๑ นั้โจทก์เถียงไม่ขึ้น เพราะเรื่องเช่นนี้อยู่ในลักษณของคดีเมื่อศาลเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำผิดแล้ว ศาลย่อมทรงไว้ซึ่งอำนาจที่จะตัดสินปล่อยได้ (ตัวอย่างฎีกาที่ ๙๒๘/๒๔๖๘ ) ส่วนฎีกาของโจทก์ข้อ ๒ นั้น จะนำมาใช้เวลานี้มิได้ แลคำว่า น้ำตาลเมา นั้นเปนคำธรรมดาสามัญเรียกร้องกัน ในฟ้องโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าเปนน้ำตาลเมาเฉย ๆ ไม่ได้อธิบายให้ชัดว่าใช้ดื่มกินเทียบได้เช่นเดียวกับสุรา ถึงหากจำเลยรับว่าน้ำตาลเมามีแอลกอฮอล์ ทั้งโจทก์ก็มิได้นำสืบความข้อนี้ด้วย จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share