แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มารดาของผู้ตาย ซึ่งได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียว ย่อมมีหน้าที่เป็นผู้จัดการทำศพผู้ตายตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1649 วรรคท้าย ฉะนั้น เมื่อมารดาผู้ตายทำสัญญามอบทรัพย์ของผู้ตายทั้งหมดให้ภรรยาอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย โดยให้ภรรยาคนนั้นรับทำศพผู้ตาย ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน มารดาผู้ตายไม่มีสิทธิจะเรียกทรัพย์มรดกของผู้ตายจากภรรยานั้นในภายหลังได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายมิน ชูจันบุตรโจทก์ถึงแก่กรรม จำเลยไปขอประกาศรับมรดก โดยอ้างว่าเป็นภรรยาซึ่งความจริงจำเลยมิได้จดทะเบียนสมรส จึงขอให้ศาลแสดงว่ามรดกของนายมิน ตกได้แก่โจทก์ กับห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกับนายมินเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่โจทก์ได้ทำเอกสารหมาย ล.๑ ยกทรัพย์ของนายมินทั้งหมด ให้จำเลย เพื่อให้จำเลยจัดการทำศพนายมิน โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะเรียกร้องเอาจากจำเลยอีก พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์บางอย่างให้แก่โจทก์ ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมิได้เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายมิน ไม่มีสิทธิจะได้รับมรดกของนายมิน โจทก์เป็นมารดานายมิน โจทก์มีหน้าที่เป็นผู้จัดการศพนายมินตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา ๑๖๔๙ วรรคท้าย แต่โจทก์ทำสัญญาหมาย ล.๑ มอบทรัพย์ของนายมินทั้งหมดให้จำเลย โดยให้จำเลยผู้ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายรับทำศพนายมิน ดังนี้ ต้องฟังว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกทรัพย์รายนี้ อันเป็นการผิดสัญญา จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น