คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2023/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องโจทก์ที่ขอให้จำเลยทั้งสองเพิกถอนคำสั่งอายัดที่ดินพิพาทของโจทก์มิใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายจึงไม่ตกอยู่ในอายุความ1ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา448 ประมวลรัษฎากรมาตรา12ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรหรือนำส่งภาษีอากรเท่านั้นเมื่อโจทก์มิใช่ผู้ที่ต้องรับผิดเสียภาษีอากรหรือนำส่งภาษีอากรของ ส. และโจทก์ยังเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทตามกฎหมายอยู่แม้จำเลยที่1จะได้ยื่นฟ้องโจทก์และ ส. ขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทโดยฉ้อฉลไว้แล้วก็ตามจำเลยที่2ก็ไม่มีอำนาจอายัดที่ดินพิพาทของโจทก์ กรมสรรพากรจำเลยที่1มิได้เป็นผู้สั่งอายัดที่ดินพิพาทจึงไม่ชอบที่จะให้จำเลยที่1เพิกถอนคำสั่งอายัดของผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่2ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สอง ถอน คำสั่ง อายัด ที่ดินพิพาทและ ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระ ค่าเสียหาย
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ต่อสู้ คดี ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง เพิกถอน คำสั่ง อายัด ห้าม ทำนิติกรรม ใด ๆ ใน ที่ดินพิพาท โฉนด เลขที่ 34168 ตำบล พระสิงห์ อำเภอ เมือง เชียงใหม่ จังหวัด เชียงใหม่ พร้อม สิ่งปลูกสร้างคำขอ อื่น ให้ยก
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ว่า เดิม ที่ดินพิพาทซึ่ง ถูก จำเลย ที่ 2 มี คำสั่ง อายัด โดย อาศัย อำนาจ ตาม ประมวลรัษฎากรมาตรา 12 เป็น ของ นาย สนธยา อินตายนต์ ผู้ต้องรับผิด เสีย ภาษีอากร แก่ จำเลย ที่ 1 นาย สนธยา ได้ จดทะเบียน โอน ขาย ที่ดินพิพาท ให้ แก่ โจทก์ เมื่อ วันที่ 14 ตุลาคม 2529 ใน วันที่ 14 เมษายน 2530จำเลย ที่ 2 มี คำสั่ง อายัด ที่ดินพิพาท ไป ยัง เจ้าพนักงาน ที่ดินจังหวัด เชียงใหม่ ห้าม จำหน่าย จ่าย โอน ที่ดินพิพาท โดย อ้าง เหตุ ว่าโจทก์ รับโอน ที่ดินพิพาท โดย การ ฉ้อฉล จำเลย ที่ 1 ได้ ฟ้อง ขอให้ เพิกถอนนิติกรรม การ ซื้อ ขาย ที่ดินพิพาท ระหว่าง โจทก์ กับ นาย สนธยา ศาลชั้นต้น และ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายก ฟ้อง คดี อยู่ ระหว่าง ฎีกา ปัญหา ตามฎีกา จำเลย ทั้ง สอง ข้อ แรก มี ว่า ฟ้องโจทก์ ขาดอายุความ ตาม ประมวล กฎหมายแพ่ง และ พาณิชย์ มาตรา 448 หรือไม่ เห็นว่า คำฟ้อง โจทก์ ที่ ขอให้จำเลย ทั้ง สอง เพิกถอน คำสั่ง อายัด ที่ดินพิพาท ของ โจทก์ มิใช่ เป็นการ ฟ้อง เรียก ค่าเสียหาย จึง ไม่ ตกอยู่ใน อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ดัง ที่ จำเลย ทั้ง สอง ฎีกาฎีกา จำเลย ทั้ง สอง ข้อ นี้ ฟังไม่ขึ้น
ปัญหา ตาม ฎีกา จำเลย ทั้ง สอง ข้อ ต่อไป มี ว่า จำเลย ที่ 2 มีอำนาจสั่ง อายัด ที่ดินพิพาท หรือไม่ เห็นว่า ตาม คำสั่ง อายัด ของ จำเลย ที่ 2จำเลย ที่ 2 อ้าง อาศัย อำนาจ ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติม โดย พระราชกำหนด แก้ไข เพิ่มเติม ประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 11)พ.ศ. 2525 และ ความ ตาม บทบัญญัติ ดังกล่าว วรรคสอง บัญญัติ ว่า เพื่อให้ ได้รับ ชำระ ภาษีอากร ค้าง ให้ อธิบดี มีอำนาจ สั่ง ยึด หรือ อายัด และขายทอดตลาด ทรัพย์สิน ของ ผู้ต้องรับผิด เสีย ภาษีอากร หรือ นำ ส่ง ภาษีอากรได้ ทั่ว ราชอาณาจักร โดย มิต้อง ขอให้ ศาล ออกหมาย ยึด หรือ สั่งอำนาจ ดังกล่าว อธิบดี จะ มอบ ให้ รองอธิบดี หรือ สรรพากรเขต ก็ ได้ และ ในวรรคสาม ของ มาตรา ดังกล่าว บัญญัติ ให้ อำนาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจเช่นเดียว กับ อธิบดี ตาม วรรคสอง ตาม บทบัญญัติ ดังกล่าว เห็น ได้ ชัด ว่ากฎหมาย ให้ อำนาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด ยึด หรือ อายัดทรัพย์ สิน ของผู้ต้องรับผิด เสีย ภาษีอากร หรือ นำ ส่ง ภาษีอากร เท่านั้น เมื่อ โจทก์มิใช่ ผู้ที่ ต้อง รับผิด เสีย ภาษีอากร หรือ นำ ส่ง ภาษีอากร ของ นาย สนธยา จำเลย ที่ 2 จึง ไม่มี อำนาจ อายัด ที่ดินพิพาท ของ โจทก์ ตาม บทบัญญัติดังกล่าว ที่ จำเลย ทั้ง สอง นำสืบ ว่า ได้ มี การ ฟ้อง ขอให้ เพิกถอน การ โอนโดย ฉ้อฉล ระหว่าง โจทก์ กับ นาย สนธยา แล้ว ก็ ไม่ปรากฏ ว่า ผล คดีถึงที่สุด ได้ มี คำพิพากษา ให้ เพิกถอน แล้ว เมื่อ ปัจจุบัน โจทก์ ยัง เป็น เจ้าของที่ดินพิพาท ตาม กฎหมาย อยู่ จำเลย ที่ 2 จึง ไม่มี อำนาจ อายัด ที่ดินพิพาทของ โจทก์ ได้ แม้ จำเลย ที่ 1 จะ ได้ ยื่นฟ้อง โจทก์ และ นาย สนธยา ขอให้ เพิกถอน การ โอน โดย ฉ้อฉล ไว้ แล้ว ก็ ตาม เพราะ ไม่มี บท กฎหมาย สนับสนุนให้ อำนาจ จำเลย ที่ 2 กระทำ ได้ คำสั่ง อายัด ที่ดินพิพาท ของ โจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฎีกา จำเลย ทั้ง สอง ข้อ นี้ ฟังไม่ขึ้น เช่นกัน
สำหรับ ปัญหา ตาม ฎีกา จำเลย ทั้ง สอง ที่ ว่า ที่ ศาลล่าง พิพากษาให้ จำเลย ที่ 1 เพิกถอน คำสั่ง อายัด ด้วย เป็น การ ไม่ชอบ นั้น เห็นว่าจำเลย ที่ 1 มิได้ เป็น ผู้สั่ง อายัด ที่ดินพิพาท จึง ไม่ชอบ ที่ จะ ให้จำเลย ที่ 1 เพิกถอน คำสั่ง อายัด ของ จำเลย ที่ 2 ด้วย ฎีกา ของ จำเลยทั้ง สอง ข้อ นี้ ฟังขึ้น
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ยก คำขอ ที่ ให้ จำเลย ที่ 1 เพิกถอนคำสั่ง อายัด นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 2

Share