แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยชวนผู้เสียหายไปเที่ยวสวนลุมพินี ผู้เสียหายไม่ไป จำเลยจึงอ้างว่าจะพาผู้เสียหายไปส่งโรงเรียน แล้วจำเลยก็เรียกรถแท็กซี่มา ผู้เสียหายคิดว่าจำเลยจะพาไปส่งโรงเรียนจริง ๆ จึงยอมขึ้นรถแท็กซี่ไปกับจำเลย ขณะอยู่บนรถแท็กซี่ เมื่อผู้เสียหายรู้ว่ารถแท็กซี่ไม่ไปส่งโรงเรียน ผู้เสียหายได้ต่อว่าจำเลย ตอนจำเลยพาผู้เสียหายไปที่บ้านแห่งหนึ่ง ผู้เสียหายก็ขอร้องให้จำเลยพากลับบ้าน จำเลยว่ารอให้พี่ชายกลับมาก่อนไม่มีค่ารถแท็กซี่ แสดงว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหายโดยผู้เสียหายไม่เต็มใจไปกับจำเลย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 318
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจพรากนางสาวนิสาชล แซ่ฉิ่น ผู้เยาว์อายุ ๑๗ ปีเศษไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร โดยนางสาวนิสาชลไม่เต็มใจไปด้วย และจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงพานางสาวนิสาชลไปกระทำอนาจารกระทำชำเรา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๔, ๓๑๘ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๐, ๑๒
จำเลยให้การรับว่าได้พานางสาวนิสาชลไปโดยนางสาวนิสาชลเต็มใจไปด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๑๘ วรรคท้าย ซึ่งแก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๒ เพิ่มโทษแล้วจำคุก ๔ ปี ลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าวันเกิดเหตุจำเลยพาผู้เสียหายไปจากบิดามารดาผู้เสียหายจริง มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๑๘ หรือไม่ โจทก์มีนางสาวนิสาชล แซ่ฉิ่น ผู้เสียหายเป็นพยานสำคัญ ข้อเท็จจริงได้ความจากผู้เสียหายว่าจำเลยชวนผู้เสียหายไปเที่ยวสวนลุมพินีผู้เสียหายไม่ไป จำเลยจึงอ้างว่าจะพาผู้เสียหายไปส่งที่โรงเรียน แล้วจำเลยก็เรียกรถแท็กซี่มา ผู้เสียหายคิดว่าจำเลยจะพาไปส่งโรงเรียนจริง ๆ จึงยอมขึ้นรถแท็กซี่ไปกับจำเลย แสดงว่าจำเลยใช้อุบายหลอกลวงพาผู้เสียหายไป ขณะอยู่บนรถแท็กซี่ เมื่อผู้เสียหายรู้ว่ารถแท็กซี่ไม่ไปส่งโรงเรียน ได้ต่อว่าจำเลย ๆ บังคับให้คนขับขับไปเรื่อย ๆ ผู้เสียหายจึงไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากคนขับรถแท็กซี่ ตอนจำเลยพาผู้เสียหายไปที่บ้านแห่งหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นบ้านของพี่ชาย ผู้เสียหายก็ขอร้องให้จำเลยพากลับบ้าน จำเลยว่ารอให้พี่ชายกลับบ้านก่อน ไม่มีค่ารถแท็กซี่ แสดงว่าเป็นเรื่องหลอกลวงผู้เสียหายทั้งสิ้น การที่ผู้เสียหายมิได้ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้เคียงก็ดี และร่วมประเวณีกับจำเลยก็ดี น่าจะเป็นเรื่องจำยอมเพราะตกอยู่ในที่บังคับ พฤติการณ์ของผู้เสียหายเชื่อได้ว่าผู้เสียหายไม่เต็มใจไปกับจำเลย จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๘
พิพากษายืน