คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้การซื้อขายที่บ้านให้แก่กัน โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และผู้ซื้อเข้าครอบครองยังไม่ถึง 10 ปี ก็ตาม แต่ผู้ขายกลับมาฟ้องเรียกที่ดินคืนโดยอ้างว่า ผู้ซื้ออาศัยอยู่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ผู้ขายบิดผัน ปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายจะเอาที่ดินคืนเปล่า ๆ ดังนี้ ถือได้ว่า ผู้ขายสืบไม่สมฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกที่นา ที่บ้านพร้อมทั้งบ้านเรือนจากจำเลย โดยอ้างว่ายินยอมให้จำเลยอยู่ บัดนี้ โจทก์จะเอาคืน จำเลยไม่ยอม โจทก์จึงฟ้อง
จำเลยต่อสู้ว่า นาซื้อมาจากนายเคน ส่วนบ้านและที่ดินซื้อมาจากโจทก์ โดยทำหนังสือกันไว้แล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ที่บ้านเรือน และเรือนเป็นของโจทก์ ห้ามไม่ให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยกับสามีได้ซื้อบ้านกับเรือนจากโจทก์ แม้สัญญาซื้อขายจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ก็ไม่มีสิทธิจะเอากลับ
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า เรือนกับที่บ้านนี้ เดิมเป็นของโจทก์ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๔๘๙ โจทก์ได้ทำหนังสือกันเองขายให้แก่จำเลย ครั้นสามีจำเลยซึ่งเป็นบุตรโจทก์ตายลง โจทก์ก็มาฟ้องคดีนี้ แต่โจทก์หาฟ้องคดีตามความจริงไม่กลับกล่าวให้เป็นที่เข้าใจว่า จำเลยกับสามีอยู่ในบ้านเรือนได้ โดยความยินยอมของโจทก์ เข้าทำนองว่า โจทก์ให้จำเลยกับสามีอาศัย โจทก์บิดผันปิดบังความจริงแห่งการซื้อขายที่จะเอาที่ดินคืนเปล่า ๆ แต่โจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง จึงต้องยกฟ้องโจทก์
จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share