แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีภรรยากันได้ทอดทิ้งกันจนภรรยาไปได้สามีใหม่มีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมา ได้ทิ้งกับสามีคนนั้นไปได้สามีใหม่อีกคนหนึ่ง แล้วฝ่ายสามีจึงมีภรรยาใหม่บ้าง พฤติการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ เป็นเวลาก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง ฯ บรรพ 5 ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า สามีภรรยานั้นได้ขาดจากการเป็นสามีภรรยากันแล้ว
(อ้างฎีกาที่ 755/2474)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ ๓ ปีมานี้ โจทก์ได้แต่งงานเป็นผัวเมียกับนายเตี่ยว สารประดิษฐ์ มีบุตรด้วยกัน ๖ คน โจทก์มีสินเดิมฝ่ายเดียว มีสินสมรสตามบัญชีท้ายฟ้องรวมราคา ๓๖๐๐ บาท จำเลยเป็นคนอาศัยอยู่ อ้างว่าได้จดทะเบียนสมรสเป็นภรรยานายเดี่ยว ๖-๗ ปีมานี้ จึงขอให้เพิกถอนทะเบียนสมรส ระหว่างนายเตี่ยวกับจำเลย และให้จำเลยส่งทรัพย์ ๓๖๐๐ บาทแก่โจทก์ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าทะเบียนสมรสระหว่างนายเตี่ยวกับจำเลยเป็นโมฆะ นอกนั้นยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า เมื่อประมาณ ๑๘ ปีมานี้ จำเลยแต่งงานเป็นสามีภรรยากับนายเตี่ยวขณะนั้น โจทก์เลิกกับนายเตี่ยวแล้ว ไปได้นายพิมพ์เป็นสามีใหม่ จนเกิดบุตรด้วยกัน ๒ คน ต่อมาโจทก์ยังได้เลิกกับนายพิมพ์และได้นายอั้นเป็นสามีอีก พฤติการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นเวลาก่อนใช้ ป.ม.แพ่ง ฯ บรรพ ๕ โจทก์กับนายเตี่ยวย่อมขาดจากการเป็นสามีภรรยากันแล้ว ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๕๕/๒๔๗๔ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยข้อที่โจทก์ขอให้เพิกถอนการสมรสระหว่างนายเตี่ยวกับจำเลยอีก ฯลฯ
จึงพิพากษายืน