แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์นำยึดที่ดินมีโฉนดเพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษามีผู้ร้องขัดทรัพย์โจทก์ยื่นคำให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย จำเลยได้ครอบครองเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยนั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่า โจทก์ยกข้อต่อสู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 แล้ว คดีย่อมมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยจริงหรือไม่
การที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของหลังจากเจ้ามรดกตายมาเป็นเวลากว่า 10 ปีนั้น เป็นการนำสืบถึงที่มาแห่งการเป็นเจ้าของ ซึ่งอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้ของโจทก์ที่ว่าจำเลยเป็นเจ้าของที่พิพาทหรือไม่
ย่อยาว
โจทก์นำยึดที่นาโฉนดที่ ๒๖๗ เฉพาะส่วนของจำเลย เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า ที่นาที่โจทก์นำยึดไม่ใช่ของจำเลย แต่เป็นของผู้ร้องได้รับมรดกจากนายหอยบิดา ขอให้ถอนการยึด
โจทก์ให้การว่า ที่นานั้นเป็นของจำเลยภริยานายหอย จำเลยรับมรดกปกครองมาฝ่ายเดียว ผู้ร้องมิได้เกี่ยวข้อง แม้ผู้ร้องเป็นทายาทนายหอย นายหอยก็ตายมาเกิน ๑ ปีแล้ว คดีขาดอายุความ จำเลยใช้สิทธิเป็นเจ้าของที่พิพาทมาโดยสงบและเปิดเผยว่าที่ดินนี้เป็นของจำเลยโดยชอบ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยเป็นภริยานายหอยหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ และไม่จดทะเบียนสมรส ไม่มีสิทธิรับมรดก จะยกอายุความมรดกขึ้นสู้ทายาทไม่ได้ จำเลยครอบครองที่พิพาทยังไม่ถึง ๑๐ ปี ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์ไม่มีสิทธินำยึดมาชำระหนี้ พิพากษาให้ถอนการยึด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยเป็นภริยานายหอยหลังใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ ไม่จดทะเบียนสมรส ยกอายุความมรดกขึ้นสู้ผู้ร้องไม่ได้ ส่วนข้อครอบครองปรปักษ์ โจทก์มิได้ยกขึ้นกล่าวในคำให้การ ไม่มีประเด็นเรื่องอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ ศาลชั้นต้นยกประเด็นข้อนี้ซึ่งไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ขึ้นวินิจฉัยด้วยนั้น หาเป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ได้ไม่ อุทธรณ์ของโจทก์ในข้อนี้ มิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ามาแล้วในศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๕ ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่โจทก์ให้การว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยจำเลยได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยนั้นประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยจึงมีว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยจริงหรือไม่โจทก์นำสืบว่า จำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยเปิดเผยอย่างเจ้าของหลังจากนายหอยตายมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีเป็นการนำสืบถึงที่มาแห่งการเป็นเจ้าของซึ่งอยู่ในประเด็นข้อต่อสู้ของโจทก์ว่าจำเลยเป็นเจ้าของที่พิพาทหรือไม่
เท่าที่โจทก์ให้การมานั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ได้ยกข้อต่อสู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ แล้ว ที่ศาลชั้นต้นหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยจึงชอบแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยโดยเห็นว่าโจทก์ไม่ได้ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทโดยอำนาจปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้วหรือยัง แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี