คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาเช่าสวนยาว โดยผู้เช่ารู้ว่าต้นยางยังเล็กกรีดยางยังไม่ได้นั้น ไม่เป็นเหตุให้สัญญาเช่าเป็นโมฆะทำสัญญาเช่าสวนกันเองมีกำหนด 1 ปี เมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้ว ผู้เช่ายังคงครอบครองทรัพย์ที่เช่าถือว่าเช่ากันต่อไปตามสัญญาเดิม ในกรณีเช่นนี้ผู้ให้เช่าฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระมีจำนวนเกินกว่า 3 ปีได้ผู้ให้เช่าเรียกดอกเบี้ยในเงินค่าเช่าค้างชำระได้ร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันผู้เช่าผิดสัญญาส่งค่าเช่า

ย่อยาว

จำเลยขายฝากสวนยางไว้แก่สามีโจทก์ ซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว มีกำหนดไถ่คืนใน ๑ ปี แล้วจำเลยทำสัญญากันเองเช่าสวนยางรายนี้ไปจากสามีโจทก์มีกำหนด ๑ ปี คิดค่าเช่าเดือนละ ๒๔ บาท ค่าเช่าค้างชำระ ๔ ปีเป็นเงิน ๑๑๕๒ บาท โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างกับดอกเบี้ยฝ่ายจำเลยต่อสู้ด้วยว่าต้นยางที่ปลูกยังเล็กกรีดเอายางไม่ได้ วัตถุประสงค์ตกเป็นพ้นวิสัย สัญญาเช่าจึงเป็นโมฆะ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จะกรีดยางได้หรือไม่จำเลยทราบดี ทั้งสัญญามิได้ระบุว่าประสงค์กรีดยาง จำเลยอาจประสงค์อย่างไรก็ได้ เป็นอันว่าจำเลยได้รับประโยชน์แล้ว และเมื่อพ้นกำหนดเช่า ๑ ปี จำเลยยังครอบครองทรัพย์ที่เช่า ได้ชื่อว่าปฏิบัติตามสัญญาเดิม จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าเช่าที่ค้างกับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับตั้งแต่จำเลยผิดสัญญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าศาลล่างตัดสินชอบด้วยกฎหมายแล้ว และว่าตาม ม.๕๓๘ ซึ่งจำเลยอ้างว่าจะบังคับให้จำเลยใช้เงินค่าเช่าเกิน ๓ ปีไม่ได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าบทนี้ใช้บังคับสำ-หรับสัญญาเช่าอันมีกำหนดกันไว้ เกินกว่า ๓ ปี แต่คดีนี้เป็นกรณีฟ้องเรียกค่าเช่าอันสืบมาแต่ ม.๕๗๐ ซึ่งสัญญามิได้กำหนดการเช่าเกิน ๓ ปี จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share