แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้จะปรากฏว่าจำเลยซื้อรถจักรยานยนต์จากเพื่อนตำรวจด้วยกันในราคาถูกแต่เมื่อซื้อมาแล้วจำเลยก็ไม่ได้ปกปิดซ่อนเร้นได้ขับรถไปทำงานที่สถานีตำรวจ กับไปตรวจท้องที่อันเป็นการใช้รถโดยเปิดเผยทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทราบว่าผู้ขายได้รถมาอย่างไร เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ซื้อรถไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรรถจักรยานยนต์เกินราคา 22,500 บาท จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยฐานรับของโจรมีกำหนด 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องในข้อหารับของโจรด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปปัญหาวินิจฉัยในชั้นฎีกามีว่า จำเลยรู้หรือไม่ว่ารถจักรยานยนต์ที่รับซื้อไว้เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ร้อยตำรวจเอกวุทฒไชยกัณฐวิจิตรและร้อยตำรวจโทสมโภชน์ ทัศนา พยานโจทก์เบิกความว่า เมื่อไปหาจำเลยที่บ้านพักตำรวจไม่พบจำเลย ระหว่างที่รอจำเลยอยู่ที่บ้านพักก็มีพลตำรวจสนองตำรวจตระเวนชายแดนขับขี่รถจักรยานยนต์ของกลางมาบอกว่าเป็นรถของจำเลย เมื่อพลตำรวจสนองไปตามจำเลยมาจำเลยรับว่าเป็นรถของตนซื้อมาจากตำรวจอภิชัย ครองอัมพรสุข พยานจึงให้จำเลยและพลอภิชัย ครองอัมพรสุข ทำบันทึกรับว่ารถจักรยานยนต์ของกลางเป็นของจำเลยซื้อมาจากพลตำรวจอภิชัย จำเลยนำสืบว่า พลตำรวจอภิชัย ครองอัมพรสุข นำรถจักรยานยนต์ของกลางมาขายให้ที่บ้านพัก พลตำรวจนุกูล ม่านทอง รู้เห็นอยู่ด้วยพลตำรวจอภิชัยบอกว่าเป็นรถของญาติร้อนเงินจึงให้พลตำรวจอภิชัยนำมาขาย เมื่อจำเลยรับซื้อไว้แล้วไม่ได้ปกปิดซ่อนเร้นได้ขับขี่ไปทำงานที่สถานีตำรวจและไปตรวจท้องที่ ได้ให้เพื่อนตำรวจยืมไปใช้ด้วย โดยมีพลตำรวจนุกูล ม่านทอง มาเบิกความสนับสนุน เห็นว่า จำเลยให้การมาแต่แรกว่าจำเลยซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางมาจากพลตำรวจอภิชัย และพลตำรวจอภิชัยก็ได้ทำบันทึกยอมรับไว้ตามเอกสารหมาย จ.1 ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ทราบว่าพลตำรวจอภิชัยได้รถจักรยานยนต์ดังกล่าวมาอย่างไร ลำพังการซื้อรถในราคาถูกไว้จะฟังว่าจำเลยรู้ว่าเป็นรถที่ได้มาจากการลักทรัพย์ยังไม่ได้ เพราะอาจเป็นว่าผู้ขายต้องการรีบขายเนื่องจากร้อนเงินดังที่จำเลยนำสืบก็ได้ทั้งข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่า จำเลยใช้รถจักรยานยนต์ของกลางโดยเปิดเผย โดยพันตำรวจโทพิชาญ ชมชัยยา สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัด สมุทรสงครามผู้บังคับบัญชาจำเลย เบิกความยืนยันว่า จำเลยซื้อรถจักรยานยนต์จากพลตำรวจอภิชัย ครองอัมพรสุข ซื้อแล้วขับขี่ไปทำงานที่สถานีตำรวจเป็นประจำ จอดไว้ที่หน้าสถานีตำรวจตามปกติไม่ได้ปกปิดพยานหลักฐาน ที่โจทก์นำสืบมายังไม่พอฟังว่า จำเลยรับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันจะมีความผิดฐานรับของโจร
พิพากษายืน