แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยหลอกลวงให้เขาถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง และที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มฤดกให้เขาแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ เป็นแต่เพียงผิดคำรับรองไว้
คำฟ้องในคดีอาญาไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม ก.ม.ลักษณะอาญา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยหลอกลวงให้ น. และ ภ. ถอนคำร้องทุกข์ และพนักงานอัยยการถอนฟ้อง ศาลอนุญาตให้อัยยการถอนฟ้องคดีอาญาดำที่ ๗๒๗/๒๔๙๐ ซึ่งอัยยการฟ้องจำเลยหาว่ายักยอกทรัพย์ของ น. และ ภ. แล้ว จำเลยไม่แบ่งทรัพย์ให้ น. และ ภ. ตามกำหนด ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องเท็จและให้ถ้อยคำเท็จต่อศาล โดย อ.ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีเป็นเจ้าพนักงานว่า ได้นำทรัพย์ไปคืนและแบ่งให้พวกผู้เสียหาย ๆ ไม่ยอมรับและไม่ไปพร้อมกัน ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๑๘,๑๕๘,๓๐๔ จำเลยให้การรับสารภาพ แต่ต่อสู้ว่า การกระทำของจำเลยไม่ผิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๔ เพราะไม่มีผู้ใดส่งทรัพย์ให้จำเลยหรือผู้อื่น การถอนคำร้องทุกข์และถอนฟ้องไม่เป็นการกระทำหรือถอน หรือทำลายหนังสือสำคัญ ตามความหมายของ ก.ม.ลักษณะอาญา ที่จำเลยรับต่อศาลว่าจะคืนจะแบ่งทรัพย์มฤดกให้แล้ว ไม่ปฏิบัติตาม เป็นแต่เพียงจำเลยผิดคำรับรองไว้ ไม่ผิดฐานแจ้งความเท็จ
พิพากษายืน.