คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในเรื่องขอให้ลงโทษฐานตัดไม้ประเภทหวงห้ามโจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่า ที่ที่ตัดไม้นั้นเป็นที่ป่า
ในเรื่องความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานนั้น จำเลยจะต้องรู้ว่า คำสั่งนั้นชอบด้วยกฎหมายและมีเจตนาขัดขืน จึงจะมีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตัดไม้หวงห้ามในป่า และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่ให้ออกจากที่หวงห้ามไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๓๓๔ (๒) จำเลยอุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยนำสืบว่า ครอบครองที่รายนี้มา ๑๖ ปีแล้ว โดยบิดามารดาซื้อมานาน ๒๘ ปีแล้ว พะยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่า เป็นที่กว้างว่างเปล่าไม่มีผู้ครอบครองมาก่อน นอกจากว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านเคยประกาศ (ตามคำสั่งของนายอำเภอซึ่งให้จัดหาที่สาธารณะ กำนันจัดหาได้แล้ว จึงประกาศเอาเป็นที่สาธารณะ) ด้วยปากให้ราษฎรในหมู่บ้าน๋หนองกุงคัดค้านภายใน ๑ เดือน จำเลยอยู่ในอีกหมู่บ้านหนึ่งอาจไม่ทราบเรื่อง ได้ความเพียงเท่านี้ จะถือว่าจำเลยยอมรับว่าที่นั้นเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ พฤติการณ์ที่จำเลยเข้าทำนาแสดงว่า จำเลยต่อสู้สิทธิของตนที่ครอบครองมาก่อนหามีเจตนาขัดขืนคำสั่งซึ่งจำเลยจะควรรู้ว่าชอบด้วยกฎหมายไม่ ทั้งโจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยตัดไม้หวงห้ามในที่ป่า จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share