แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การฟ้องคดีขอให้เพิกถอนพินัยกรรม์ที่ผูกมัดมฤดกเรียกได้ว่าเป็นการฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องมฤดกอันเป็นเหตุให้อายุความมฤดกสะดุดหยุดลง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดก จำเลยให้การว่าจำเลยครอบครองที่มฤดกมาเกินอายุความมฤดกแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ที่เป็นสิทธิแก่จำเลย
โจทก์อุทธรณ์ว่า คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ เพราะโจทก์เคยฟ้องแบ่งในคดีที่โจทก์เป็นจำเลยเรื่องที่มฤดกรายนี้ โดยขอให้เพิกถอนพินัยกรรม์ซึ่งจำเลย (คดีนี้)อ้างว่าผู้ตายยกที่มฤดกให้จำเลย คดีนั้นศาลฎีกาพิพากษาว่าพินัยกรรม์ไม่สมบูรณ์ โจทย์จึงฟ้องคดีนี้ขอแบ่งที่ภายใน ๑ ปีจากวันฟังคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์เห็นว่าดคีก่อนเป็นเรื่องขอให้วินิจฉัยพินัยกรรม์ว่าสมบูร์หรือไม่เท่านั้นอายุความจึงไม่สดุดหยุดลง โจทย์ฟ้องขอแบ่งมฤดกภายหลัง ๑ ปีย่อมขาดอายุความมฤดก จึงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าพินัยกรรมซึ่งพิพาทกันในคดีก่อนถึงเรื่องความสมบูรณ์นั้น มีข้อความยกที่รายพิพาทให้จำเลยด้วยการที่โจทก์ขอให้เพิกถอนพินัยกรรม์ก็เท่ากับโจทก์ขอให้ศาลแสดงว่าที่รายพิพาทปลอดจากข้อผูกมัดในพินัยกรรม์ กล่าวคือกลายเป็นมฤดกไม่มีพินัยกรรม์ ซึ่งโจทก์จะได้มีส่วนแบ่งในฐานเป็นทายาทของผู้ตาย ฉะนั้นคดีเรื่องขอให้เพิกถอนพินัยกรรม์ที่ผูกมัดที่นารายนี้ จึงเป็นการที่โจทย์ฟ้องคดีเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อวมฤดกตามความหมายแห่งประมวลกฏหมายแพ่งฯ มาตรา ๑๗๓ อายุความย่อมสดุดหยุดลงตามมาตรา ๑๗๓ เมื่ออายุความสดุดหยุดลงแล้ว ก็ต้องเริ่มนับใหม่ตามประมวลแพ่งฯ มาตรา ๑๘๑ ซึ่งโจทก์ก็ได้ฟ้องภายในอายุความ ๑ ปี จากวันคดีก่อนถึงที่สุด จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ให้แบ่งที่พิพาทระหว่างโจทก์ จำเลยคนละครึ่ง