คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมาทวงปืนของจำเลยจากผู้ตายซึ่งจำเลยแน่ใจว่าผู้ตายเป็นคนเอามา ผู้ตายใช้มีดพกปลายแหลมแทงจำเลยแต่ไม่ถูกจำเลยใช้มีดเหลียนฟันผู้ตาย 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายหันกลับมาจะทำร้ายจำเลยจนผู้ตายแขนขาดทั้งสองข้าง และมีบาดแผลที่อื่นอีกหลายแห่งถึงแก่ความตายทันที การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันและการที่จำเลยฟันผู้ตายหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ด้วยเจตนาจะฟันผู้ตายให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น ไม่เป็นการฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดขนาดใหญ่เป็นอาวุธฟันนายชวน บำเรอจิตถูกบริเวณร่างกายเป็นบาดแผลฉกรรจ์รวมหลายแห่ง และแขน มือขาดได้รับอันตรายสาหัส โดยเจตนาฆ่า นายชวน บำเรอจิต ได้ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ทั้งนี้จำเลยได้ฆ่าผู้ตายโดยการกระทำทารุณโหดร้ายกล่าวคือ เมื่อจำเลยฟันผู้ตายแขนซ้ายขาดแล้ว ผู้ตายได้วิ่งหนีล้มลงจำเลยวิ่งไล่ตามไปฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง ผู้ตายลุกขึ้นวิ่งหนีต่อไปแล้วล้มลงอีก จำเลยได้วิ่งไปฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้งเป็นบาดแผลฉกรรจ์หลายแผล และมือขวาขาดจนถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำทารุณโหดร้ายแก่ผู้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๒๘๙(๕)
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยไล่ฟันผู้ตายฝ่ายเดียว ฟังไม่ได้ว่าจำเลยป้องกันตัว การที่จำเลยฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีกนั้น เนื่องจากความโกรธและจำเลยต้องการฟันผู้ตายให้ถึงแก่ความตายจริง ๆ การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุกไว้ตลอดชีวิต ข้อหาตามมาตรา ๒๘๙(๕) ให้ยก
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะกำหนดโทษที่ลงแก่จำเลยเป็นว่าให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนดยี่สิบปี นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า วันเกิดเหตุจำเลยมาทวงปืนของจำเลยจากผู้ตาย ซึ่งจำเลยแน่ใจว่าผู้ตายเป็นคนเอามา ผู้ตายใช้มีดพกปลายแหลมแทงจำเลยแต่ไม่ถูก ทันใดนั้นเองจำเลยก็ใช้มีดเหลียนฟันผู้ตาย ๑ ทีผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็วิ่งไล่ฟันผู้ตายต่อไปอีก ผู้ตายมีบาดแผลหลายแห่งแขนขาดทั้งสองข้าง แขนซ้ายด้านหลังมีบาดแผล ๒ แผล ที่ขาขวาด้านหลังเหนือเข่าข้อพับ ที่ต้นแขนขวา ที่แก้มซ้ายจดหู และที่หางคิ้วซ้ายโดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายหันกลับมาจะทำร้ายจำเลยแต่อย่างใด ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงวินิจฉัยว่าการที่ผู้ตายใช้มีดพกปลายแหลมแทงจำเลยแต่ไม่ถูก และจำเลยใช้มีดเหลียนฟันผู้ตาย ๑ ที นั้น เป็นการป้องกันตัวและการกระทำของจำเลยในตอนวิ่งไล่ฟันผู้ตายไปนี้ ต่อเนื่องกับการกระทำของจำเลยในตอนแรก แต่เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน การที่จำเลยฟันผู้ตายซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ด้วยเจตนาจะฟันผู้ตายให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น ไม่เป็นการฆ่าโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๕)
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๖๙ ให้จำคุกจำเลยห้าปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share