คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยใช้ปืนที่ขึ้นนกแล้วจ้องจะยิง ห่างจากอกผู้เสียหายเพียง 1 ศอก และยิงปืนขึ้น แต่มีผู้อื่นจับมือจำเลยข้างที่ถือปืนให้เบนไป แม้กระสุนปืนจะไม่ถูกผู้เสียหายก็ตาม ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ใช้อาวุธปืนลูกซองพกยิงนายควร 1 นัดโดยเจตนาฆ่า แต่มีผู้ขัดขวางปัดมือจำเลยเสียก่อน กระสุนปืนจึงไม่ถูกนายควร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80

จำเลยปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยดึงผมผู้เสียหายให้ลุกยืนขึ้นแล้วจ้องปืนไปยังผู้เสียหายนั้น จำเลยได้กระทำไปเพราะความมึนเมาสุราแต่ความมึนเมาสุราของจำเลยไม่ถึงขนาดที่จะได้รับยกเว้นโทษตามกฎหมายปืนนี้ได้ขึ้นนกแล้ว และจะยิงผู้เสียหายห่างจากหน้าอกผู้เสียหายเพียง 1 ศอกและยิงปืนขึ้น แต่มีผู้จับมือจำเลยข้างที่ถือปืนให้เบนไปถ้ามิเช่นนั้นแล้วกระสุนปืนก็จะถูกผู้เสียหาย ดังนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยได้กระทำไปโดยเจตนาดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 แต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share