คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้แก่ผู้ถือ โจทก์รับโอนมาย่อมเป็นผู้ทรงจำเลยจะยกข้อต่อสู้โจทก์ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกัน อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยผู้สั่งจ่ายกับบิดาโจทก์ผู้ทรงคนก่อนหาได้ไม่คดีจึงไม่จำเป็นต้องสืบพยาน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค จำเลยให้การว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้นายสำราญบิดาโจทก์เพื่อนำไปชำระค่าไม้ และนายสำราญได้จ่ายเช็คของตนให้แก่จำเลยไว้แทน แต่นายสำราญไม่ได้นำเช็คพิพาทไปชำระค่าไม้ และเช็คของนายสำราญขึ้นเงินไม่ได้ เช็คพิพาทจึงไม่มีมูลหนี้นายสำราญถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทเพราะไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกของนายสำราญศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปรากฏว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้แก่ผู้ถือ โจทก์เป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทมาย่อมเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามเช็ค จำเลยจะยกข้อต่อสู้โจทก์ผู้ทรงว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกัน อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายกับบิดาโจทก์ในฐานะผู้ทรงคนก่อนหาได้ไม่โดยต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 คดีนี้ไม่จำเป็นต้องสืบพยาน ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยต้องรับผิดตามเช็คพิพาทชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”

พิพากษายืน

Share