คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1866/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลซึ่งมูลคดีเรื่องนั้นเกิดขึ้นในเขตนั้น เมื่อศาลจังหวัดนั้นได้ใช้ดุลยพินิจอนุญาต ให้โจทก์ยื่นคำฟ้องที่ศาลนั้นแล้ว ก็เป็นการชอบด้วย ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 4 (2)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่านิติกรรมขายฝากระหว่างผู้มีชื่อกับจำเลยเป็นอันใช้ไม่ได้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมอันใช้ไม่ได้นั้นเสีย ดังนี้ ไม่เกินคำขอในฟ้อง เพราะเป็นลักษณะของการณ์อันเดียวกัน
ทำใบมอบอำนาจปลอมขึ้นว่าเจ้าของที่ดินมอบอำนาจให้ตนเอาที่ดินไปขายฝาก แม้ผู้รับซื้อฝากจะรับซื้อไว้โดยสุจริตและจดทะเบียนการขายฝากไว้แล้ว เจ้าของที่ดินย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ เพราะเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้ขาย นิติกรรมระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ซื้อจึงไม่มีต่อกัน ชอบที่ผู้ซื้อจะไปไล่เบี้ยเอาแก่ผู้ขาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่ดินระหว่างนายทอง ผู้ขาย จำเลยเป็นผู้รับซื้อฝากโดยอ้างว่าที่ดินเป็นของโจทก์
จำเลยให้การว่า รับซื้อไว้โดยสุจริต และคดัค้านว่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องที่ศาลปทุมธานี
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องและใบมอบอำนาจที่ให้นายทองทำนิติกรรมขายฝากที่พิพาทแก่จำเลยเป็นใบมอบอำนาจปลอม จึงให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝาก ให้เพิกถอนการจดทะเบียนเสีย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องอำนาจศาลนั้น มูลคดีเรื่องนี้เกิดขึ้นในจังหวัดปทุมธานี ศาลจังหวัดปทุมธานีได้ใช้ดุลยพินิจอนุญาตให้โจทก์ยื่นคำฟ้องที่ศาลนั้นได้เป็นการชอบด้วยมาตรา ๔ (๒) แห่ง ป.ม.วิ.แพ่ง แล้ว
ส่วนข้อเท็จจริงคงฟังว่า โจทก์มิได้อำนาจให้แก่นายทอง และเป็นใบมอบอำนาจปลอม นิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยหาได้มีต่อกันไม่ ที่จำเลยอ้างว่าได้ซื้อด้วยความสุจริตโดยทางทะเบียนนั้น ผู้ขายเป็นผู้หลอกลวงไม่มีกรรมสิทธิอย่างใด ทั้งผู้นั้นก็มิได้เคยปรากฎตนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิโดยทางทะเบียนนั้น จำเลยจะอ้างว่ากระทำโดยหลงเชื่อสิทธิทางทะเบียนก็ไม่ได้ ด้วยความจริงเป็นเรื่องหลวงผิดในส่วนบุคคลผู้ขายที่แสดงว่ามีอำนาจขายตามใบมอบอำนาจปลอมต่างหาก ชอบที่จำเลยจะไปไล่เบี้ยเอาแก่ผู้นั้น
ศาลพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมากรจดทะเบียนนิติกรรมอันใช้ไม่ได้ นั้น ชอบแล้ว ไม่เกินคำขอในฟ้องเพราะเป็นลักษณะของการณ์อันเดียวกัน

Share