คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี เป็นเหตุให้รับโทษหนักขึ้นมิใช่เป็นความผิดอีกบทหนึ่งต่างหากศาลลงโทษจำเลยตาม มาตรา 340 ตรีซึ่งเป็นบทหนักเท่านั้นไม่ได้ต้องลงโทษตาม มาตรา 340,340 ตรี

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 2, 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี ป.ว. ฉบับที่ 11 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14 ลงโทษตามมาตรา 340 ตรี ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยที่ 1, 2, 3 คนละ 18 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ลดโทษจำเลยที่ 1 เหลือ 13 ปี 6 เดือน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15ลงโทษตามมาตรา 340 ตรี ซึ่งเป็นบทหนักนั้น เห็นว่ายังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะมาตรา 340 ตรี เป็นเพียงเหตุที่ทำให้ผู้กระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานี้รับโทษหนักขึ้นเท่านั้น ลำพังเพียงมาตรานี้โดยเฉพาะแล้วหาได้เป็นความผิดอีกบทหนึ่งต่างหากไม่ อนึ่งปัญหาว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ซึ่งร่วมกันกระทำความผิด ควรมีความผิดฐานใดนั้น เป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีแม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาตลอดถึงจำเลยที่ 1ที่มิได้ฎีกาได้ด้วย

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 ส่วนกำหนดโทษและนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

พิพากษายืน

Share