คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1820/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยซึ่งมิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุญาตให้ยื่นคำให้การและศาลสั่งไต่สวนคำร้องดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องระหว่างศาลกับจำเลย และมิใช่เหตุที่จะทำให้โจทก์ได้รับยกเว้นหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 198 ในอันที่จะต้องมีคำขอต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ทั้งโจทก์จะถือว่าระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงในวันที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การไม่ได้

ย่อยาว

มูลกรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ เรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาเช่าซื้อรถยนต์เป็นเงิน ๑๐๖,๔๙๖ บาทและให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันร่วมรับผิดด้วย
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำให้การของจำเลยที่ ๒ ซึ่งยื่นเกินกำหนด จำเลยที่ ๒ ก็ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ยื่นคำให้การโดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แต่ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้องจำเลยที่ ๒ จึงยื่นคำแถลงคัดค้านคำสั่งยกคำร้องดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาต่อไป ศาลชั้นต้นรับคำคัดค้านของจำเลยที่ ๒ และมีคำสั่งว่าโจทก์มิได้ยื่นคำร้องต่อศาลภายใน ๑๕ วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การสิ้นสุดลง จึงให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๘ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นสั่งว่าได้สั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๒ แล้วให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความว่า จำเลยที่ ๒ ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๒๘ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๗ จำเลยที่ ๒ มีหน้าที่ต้องยื่นคำให้การภายใน ๘ วัน กล่าวคือต้องยื่นคำให้การภายในวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๒๘ จำเลยที่ ๒ ยื่นคำให้การวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๒๘ เกินกำหนด ๘ วัน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๗ ให้ถือว่าจำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์มีหน้าที่ตามมาตรา๑๙๘ ที่จะต้องมีคำขอต่อศาลภายใน ๑๕ วัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด สำหรับในกรณีนี้โจทก์ต้องยื่นคำขอภายในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๘ การที่จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การโดยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดและศาลสั่งไต่สวนคำร้องดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องระหว่างศาลกับจำเลยที่ ๒ มิใช่เหตุที่จะทำให้โจทก์ได้รับการยกเว้นที่จะไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมาย ที่โจทก์ฎีกาว่ากรณีนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ควรนับเวลาสิ้นสุดของระยะเวลายื่นคำให้การของจำเลยที่ ๒ ในวันที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ ๒ ยื่นคำให้การในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๘ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๘ มีข้อความชัดเจนอยู่แล้ว ไม่อาจขยายความออกไปได้ดังที่โจทก์ฎีกา
พิพากษายืน.

Share