แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การลงโทษเรียงกะทงอยู่ในดุลพินิจของศาล
ย่อยาว
คดีนี้โจทย์ฟ้องว่าจำเลยมีตำแหน่งน่าที่เปนสมุห์บาญชีกรมพระนครบาลกระทรวงกระลาโหมได้บังอาจยักยอกพระราชทรัพย์ซึ่งอยู่ในความอารักขาของจำเลยไปเปนประโยชน์ส่วนตัวเปนระยะเวลา ๔ ปี เปนเงิน ๑๗๙๐๓๖ บาท ๕๗ สตางค์ เจ้าพนักงานจับตัวจำเลยได้พร้อมด้วยเงินของกลาง ๑๔๒๒๖ บาท ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๑๓๑ แล ๗๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินต้องกันว่าจำเลยยักยอกเงินถึง ๔ ปีเปนจำนวนมากมายเปนเงินต่างประเภทกันด้วย มีผิด ๔ กะทงรวมโทษจำคุก ๑๕ ปีลดสารภาพเสีย ๑ ใน ๓ คงให้จำคุกจำเลย ๑๐ ปี กับให้ใช้ทรัพย์
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยแต่กะทงเดียว
ฎีกาตัดสินว่า ความผิดของจำเลยได้กระทำต่างกรรมต่างวาระกันไม่มีเหตุจะลดโทษลงอีกได้จึงยืนตามศาลล่างทั้งสอง