แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมแต่ไม่ได้ระบุมาว่าการที่จำเลยปลอมเอกสารขึ้นนั้น น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแม้จะอ่านคำบรรยายฟ้องโจทก์โดยตลอดก็ไม่อาจทราบความหมายนี้ได้ฟ้องโจทก์ดังนี้ไม่ครบองค์ความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ร่วมกันทำปลอมเอกสารหนังสือมอบอำนาจขึ้น ๑ ฉบับ โดยจำเลยได้ร่วมกันเอาแบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจที่โจทก์ได้ลงชื่อไว้แล้ว แต่ยังมิได้กรอกข้อความ กรอกข้อความลงไปว่าโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ขายที่ดินตาม น.ส.๓ เลขที่ ๖๕,๖๖,๗๐ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ เป็นพยานในเอกสารที่จำเลยร่วมกันทำปลอมขึ้นนั้นอันเป็นเอกสารสิทธิทั้งนี้ โดยจำเลยทั้งสามไม่มีสิทธิหรืออำนาจใด ๆ ที่จะกระทำเช่นนั้น โจทก์ไม่เคยมอบอำนาจให้จำเลยที่ ๑ ขายที่ดินแต่อย่างใด เพียงแต่มอบอำนาจให้จำเลยทำการไถ่ถอนการจำนองเท่านั้นแล้วต่อมาในระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันนำเอกสารหนังสือมอบอำนาจที่จำเลยทำปลอมขึ้นไปแสดงต่อผู้มีชื่อและเจ้าพนักงานจนผู้มีชื่อหลงเชื่อและตกลงซื้อที่ดินดังกล่าวนั้นและเจ้าพนักงานจดทะเบียนการขายที่ดินดังกล่าวนั้น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๘, ๘๓, ๙๐, ๙๑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๑๔ ข้อ ๒ ต่อมาโจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลยที่ ๒, ๓ ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตแล้ว
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ได้ระบุว่าได้เกิดความเสียหายหรือน่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์เองหรือผู้อื่นหรือประชาชนคำฟ้องโจทก์ไม่ครบองค์ความผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔ บัญญัติว่า “ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร….” ตามตัวบทที่ยกมากล่าวแล้วองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสารมีว่า “น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ด้วยแต่ฟ้องโจทก์มิได้มีข้อความดังกล่าว และแม้จะอ่านคำบรรยายฟ้องโจทก์โดยตลอด ก็ไม่อาจทราบความหมายนี้ได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่ครบองค์ความผิดตามกฎหมายที่โจทก์อ้างขอให้ลงโทษจำเลยไม่มีทางลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
พิพากษายืน