คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768-1769/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของสวนฟ้องขับไล่ผู้เช่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ผู้เช่าจึงต้องออกไป เจ้าของสวนได้เข้าไปเก็บพืชผลของผู้เช่าซึ่งเป็นไม้ล้มลุกและธัญชาติ ต่อมาศาลสูงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง เจ้าของสวนย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เช่า

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องจำเลยว่า โจทก์เป็นผู้เช่าสวนของจำเลยต่อมาจำเลยฟ้องขับไล่ไม่ให้โจทก์เข้าไปในสวน คดีระหว่างอุทธรณ์จำเลยเข้าไปเก็บพริก ถั่ว อ้อย และเผือกของโจทก์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายสำหรับนางง้อโจทก์ 13,380 บาท สำหรับนายง่วนท้งโจทก์ 9,300 บาท

จำเลยต่อสู้ว่าศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์ทุเลาการบังคับคดีในคดีนั้นจึงมิใช่การกระทำของจำเลย ทั้งศาลก็ให้เวลาและโอกาสที่จะเก็บเกี่ยวไป จำเลยมิได้ถืออำนาจเข้าไปเก็บเป็นราคาตามที่โจทก์ฟ้อง อย่างไรก็ดี เมื่อโจทก์ส่งมอบที่ดินคืน ถึงจะมีอะไรเหลืออยู่บ้างก็เป็นสิ่งที่โจทก์สละและเน่าเสียไปตามสภาพไม่มีราคาเท่าโจทก์ฟ้อง ๆ โจทก์เคลือบคลุมและใช้สิทธิไม่สุจริต

ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ได้สละสิทธิให้จำเลยโดยปริยายแล้วไม่เป็นการละเมิด พิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าพืชผลของโจทก์เป็นไม้ล้มลุกและธัญญชาติอันจะเก็บเกี่ยวได้เป็นคราว ๆ ต่อปี ไม่เป็นส่วนควบของที่ดิน เมื่อจำเลยเก็บเกี่ยวไปย่อมต้องรับผิด พิพากษากลับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่นางง้อโจทก์ 10,000 บาท แก่นายง่วนท้ง 8,000 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าไม่ต้องรับผิดฟังไม่ขึ้น แต่โจทก์และจำเลยต่างก็เข้าเก็บผลไม้ จึงพิพากษาแก้ว่าให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่นางง้อเพียง 7,000 บาท แก่นายง่วนท้ง 5,000 บาท

Share