คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของเคหะมีอำนาจฟ้องเจ้าของโรงงาน ขอให้ห้ามมิให้นำความเดือดร้อนรำคาญแก่คนในการดำเนินกิจการของโรงงานซึ่งอยู่ใกล้กับเคหะของตนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยปลูกสร้างโรงงานทำน้ำตาล มีเครื่องจักรกลไกใหญ่มีกำลังมาก เปิดเครื่องจักรทำงานทั้งกลางวันกลางคืน ทำความเดือดร้อนรำคาญแก่โจทก์ คือมีเสียงดัง มีความกระเทือนมาก น้ำเหลืองน้ำตาลหกเปรอะเปื้อนส่งกลิ่นเหม็น มูลเถ้าจากปล่องไฟตกทั่วไปในบ้านโจทก์ ฯลฯ ความกระเทือนของเครืองจักรทำให้บ้านโจทก์ทรุดเคลื่อนเสียหายทั้งหลังเป็นเงินประมาณ ๑,๐๐๐๐ บาท ขอให้ศาลบังคับห้ามจำเลยทำความรำคาญ และใช้ค่าเสียหาย ๑,๐๐๐๐ บาท
ศาลแพ่งพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าโจทก์เป็นเจ้าของโรงเรือนมีอำนาจฟ้องคดีได้และพิพากษาห้ามจำเลยใช้เครื่องจักรอันมีเสียงดังและกระเทือนและส่งเถ้าถ่านออกจากปล่องไฟ และระงับเสียงดังอึกทึกจากคนงานและระฆังในโรงงานของจำเลยและให้กำจัดกลิ่นเหม็นจากโรงงาน มิให้กระทำความเดือนร้อนรำคาญแก่โจทก์ ส่วนค่าเสียหายจำเลยไม่ต้องรับผิด
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีเคหะอยุ่ที่ซอยเกษมสันต์มาราว ๒๐ ปีเศษแล้ว ครั้นปี พ.ศ.๒๔๘๙ จำเลยมาตั้งโรงงานน้ำตาลใช้เครื่องจักรห่างบ้านโจทก์ราว ๕ วา โดยมีถนนกั่น ทำความรำคาญให้โจทก์ดังคำวินิจฉัยของศาลล่างจริง แม้จะได้ความว่าในย่านนั้นมีโรงงานอื่น อยู่บ้างแต่จะถือเป็นย่านอุสาหกรรมทีเดียวไม่ได้ ส่วนฎีกาที่ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ได้ความว่า โจทก์และนางเพิ่มเป็นเจ้าของเคหะ ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
จึงพิพากษายืน

Share