แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่ศาลอนุญาตให้ผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้วโจทก์ร่วมและพนักงานอัยการต่างมีฐานะเป็นโจทก์ด้วยกันเมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์การที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่สั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้พนักงานอัยการโจทก์โดยไม่ได้สั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ร่วมด้วยและศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวไปจึงเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา200อันทั้งการที่ศาลชั้นต้นมิได้แจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ร่วมทราบด้วยก็ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา182ประกอบด้วยมาตรา215ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ปฏิบัติเสียให้ถูกต้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 83
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นายธวัชผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8) ให้จำคุกคนละ 2 ปี
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้นายธวัชผู้เสียหาย เข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการโจทก์ด้วยดังนั้นโจทก์ร่วมและพนักงานอัยการต่างก็มีฐานะเป็นโจทก์ด้วยกัน แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามแล้ว ศาลชั้นต้นเพียงแต่สั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามให้เฉพาะแก่พนักงานอัยการโจทก์เท่านั้น หาได้สั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามแก่โจทก์ร่วมไม่มีอีกทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 1ก็พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องด้วยการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาพิพากษาคดีไปโดยมิได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามให้โจทก์ร่วมเพื่อแก้อุทธรณ์ด้วยนั้น จึงเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 200นอกจากนี้ยังปรากฏด้วยว่าในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้คู่ความฟัง ศาลชั้นต้นก็มิได้แจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้แก่โจทก์ร่วมทราบด้วย ซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 ประกอบมาตรา 215 ด้วยเช่นกัน
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการในเรื่องส่งสำเนาอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามให้โจทก์ร่วม แล้วส่งให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี