คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์มีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมแต่ผู้เดียว จำเลยเป็นบุตรเป็นทายาทโดยธรรม ถูกตัดมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1608 วรรคท้าย ไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้ตามมาตรา 1755

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับบ้านเรือนห้องแถวพิพาทรวมทั้งสิทธิการเช่าทรัพย์จากผู้ให้เช่าที่ดิน ให้ชำระเงิน 19,800 บาท กับดอกเบี้ยและค่าเช่าเดือนละ 1,800 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นบุตรสาวของนางสมพร ทองบุญ เจ้ามรดก นางสมพรถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน2519 มีเรือน 2 หลัง ห้องแถว 4 ห้อง มีราคารวมกันประมาณ 200,000 บาทเป็นมรดก ก่อนถึงแก่กรรมนางสมพรเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมลงวันที่ 25กันยายน 2507 ตามเอกสาร จ.4 ยกเรือนและห้องแถวดังกล่าวให้โจทก์ซึ่งเป็นบุตรของนายพ่วง ทองบุญ อันเกิดจากภรรยาเดิมของนายพ่วง หลังจากนางสมพรเจ้ามรดกถึงแก่กรรมแล้วจำเลยได้เก็บค่าเช่าบ้านและห้องแถวจากผู้เช่าเรื่อยมา

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมิได้นำสืบตามข้อต่อสู้ที่ว่านางสมพรเจ้ามรดกได้ฉีกทำลายต้นฉบับพินัยกรรมตามเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าต้นฉบับพินัยกรรมเอกสารดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีการฉีกอย่างไร จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วว่าพินัยกรรมเอกสาร จ.4 ของโจทก์สมบูรณ์ โจทก์มีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมแต่ผู้เดียว จำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมถูกตัดมิให้รับมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1608 วรรคท้าย จำเลยจึงไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755”

พิพากษายืน

Share