แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประกาศอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 ต้องเป็นประกาศเกี่ยวกับการค้ากำไรเกินควรและเพื่อ้องกันการค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ระบุไว้ในประกาศนั้น จะประกาศโดยมีวัตถุประสงค์เป็นอย่างอื่นมิได้ เพราะเป็นการนอกขอบอำนาจของพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ และในประกาศนั้น ต้องสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ระบุชื่อไว้ในประกาศนั้นด้วย จะถือว่าประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่านั้นแล้วก็เป็นการห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งนั้นอยู่ในตัวมิได้(อ้างฎีกาที่ 721/2502)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามนี้กับจำเลยในคดีอื่นได้บังอาจร่วมกันเคลื่อนย้ายโคมีชีวิต ๔ ตัว จากท้องที่ตำบลยาเระใต้ เข้าไปในเขตท้องที่ ตำบลมะรือโบตะวันออก ตำบลตันหยงลิมอ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นเขตควบคุมห้ามเคลื่อนย้ายโคมีชีวิตแต่ละเขต โดยมิได้รับหนังสืออนุญาตจากประธานคระกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาสหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการฝื่ฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาส ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๖,๘,๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ ออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตเป็นสิ่งควบคุม และกำหนดเขตท้องที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นเขตควบคุมห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตแต่ละเขตเข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญํติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๖,๘,๑๐,๑๗ ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาส ฉบับที่ ๑/๒๕๐๖ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔,๕,๖,๗,๘,๙ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ ,๘๓ และขอให้สั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับ
และสั่งจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับด้วย
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรตามสำเนาท้ายฟ้องระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของเท่านั้น มิได้สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ประกาศห้ามไว้นั้น ประกาศดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งอ้างเป็นหลักในการประกาศว่าจำเลยฝ่าฝืนประกาศนี้ จึงไม่มีความผิดดังโจทก์ฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า ประกาศท้ายฟ้องของโจทก์มีวัตถุประสงค์ห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตออกหรือเข้าท้องที่ที่ได้ประกาสกำหนดไว้ เป็นการควบคุมโคกระบือมีชีวิตแต่ละท้องที่ให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประชาชน จึงไม่จำเป็นต้องห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ประกาศควบคุมนั้น เพราะเป็นการสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งนั้นอยู่ในตัวเอง
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาคดีแล้ว ประกาศฉบับที่โจทก์กล่าวหาว่า จำเลยร่วมกันฝ่าฝืนอันเป็นความผิดดังโจทก์ฟ้องนั้น ได้ประกาศโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติการค้ากำไรเกินควร พุทธศักราช ๒๔๙๐ ฉะนั้น ข้อสำคัญของประกาศดังกล่าวนี้จึงต้องเป็นประกาศเกี่ยวกับการค้ากำไรเกินควรและเพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ระบุไว้ในประกาศนั้น จะประกาศโดยมีวัตถุประสงค์เป็นอย่างอื่นมิได้ เพราะเป็นการนอกขอบอำนาจของพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ และในประกาศนั้น ต้องสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ระบุชื่อไว้ในประกาศนั้นด้วย จะถือว่าประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่านั้นแล้วก็เป็นการห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งนั้นอยู่ในตัวมิได้เช่นเดียวกัน เพราะผิดความมุ่งหมายของมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ ซึ่งมุ่งให้คณะกรรมการมีอำนาจระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งที่ได้ระบุชื่อหรือประเภทไว้นั้นในเขตท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจเสียก่อน แล้วจึงให้มีอำนาจสั่งการเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามค้ากำไรเกินควรนั้นตามที่เห็นสมควร ดังที่ระบุไว้ในข้อ ๑ ถึงข้อ ๘ แห่งมาตรานี้ ซึ่งในกรณีนี้ได้แก่ข้อ ๖
วางระเบียบหรือห้ามการส่งออกไปนอกหรือนำเข้ามาในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ประกาศท้ายฟ้องโจทก์ไม่ได้ห้ามมิได้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ระบุชื่อไว้ คือ โค กระบือมีชีวิตจึงเป็นประกาศที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๗๒๑/๒๕๑๒
พิพากษายืน