แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุคคลใดได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2482 แล้ว หากประสงค์จะย้ายโรงงานนั้นไปสถานที่อื่น ก็ต้องขออนุญาตตั้งใหม่ จะใช้ใบอนุญาตตั้งโรงงานสำหรับสถานที่เก่าไม่ได้ มิฉะนั้นย่อมมีความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันตั้งโรงงานสีข้าวเครื่องจักรและเปิดโรงงานรับจ้างสีข้าวโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 มาตรา 3, 6, 9, 19, 23แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 มาตรา 7, 12 พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 บังคับแก่โรงงานทุกชนิดในท้องที่บางจังหวัด พ.ศ. 2500 มาตรา ข้อ 19 และสั่งให้โรงงานจำเลยหยุดทำการตลอดเวลาที่ยังมิได้รับอนุญาตหรือหนังสืออนุญาต
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธความผิด ว่ามีใบอนุญาตตั้งโรงสีแล้วแต่ต่อมาได้ย้ายโรงสีไปที่อื่น ยังไม่ได้รับใบแทนใบอนุญาตเดิม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานสีข้าวและได้รับอนุญาตให้เป็นดำเนินการได้ ส่วนจำเลยที่ 1 ดำเนินการแทนจำเลยที่ 2 ต่างไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โรงงานเป็นอสังหาริมทรัพย์ ไม่อาจเคลื่อนย้ายไปแห่งอื่นได้ กฎหมายจึงมิได้บัญญัติถึงการย้ายโรงงานไว้จำเลยทั้งสองจึงมีความผิด พิพากษากลับ โดยให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 มาตรา 6, 9, 19 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 ศาลปรับคนละ 2,000 บาท และให้หยุดโรงงานตลอดเวลาที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2482 มีความมุ่งหมายควบคุมโรงงานดังจะเห็นได้จากที่บัญญัติให้ผู้ขอตั้งโรงงานส่งแผนผังแสดงบริเวณโรงงานพร้อมด้วยรายการติดตั้งเครื่องจักรซึ่งรัฐมนตรีอาจกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้ในใบอนุญาตก็ได้ตามที่เห็นจำเป็น และเมื่อโรงงานพร้อมจะเปิดดำเนินการ ก็ให้เจ้าของโรงงานแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตและตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ นอกจากนี้ยังให้อำนาจรัฐมนตรีออกกฎกระทรวงกำหนดเขตท้องที่ตั้งโรงงานและอื่น ๆ ฉะนั้น การตั้งโรงงาน ณ สถานที่ใด จึงต้องเป็นไปตามกฎหมายมิใช่จะกระทำได้ตามใจชอบการที่จำเลยย้ายโรงงานสีข้าวเครื่องจักรโดยถือใบอนุญาตสำหรับสถานที่เก่าไปแห่งใหม่ โดยยังไม่มีใบอนุญาตสำหรับสถานที่ใหม่ จึงมีความผิดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
พิพากษายืน