แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มีเอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานปรากฎชัดเจนในจำนวนเงินกู้ (เกินกว่า 50 บาท) และระบุว่าได้รับเงินไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ต่อสู้ว่าสัญญากู้นี้เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ด้วยประการใดๆ จำเลยจะนำสืบว่ารับเงินกู้ไปไม่ครบจำนวนดังข้อความตามสัญญากู้นั้นหาได้ไม่ เป็นการขัดต่อ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 94(ข).
ย่อยาว
เรื่อง ผิดสัญญากู้เงิน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป ๖,๑๐๐ บาท ดอกเบี้ยชั่งละ ๑ บาท ต่อเดือนตามสำเนาสัญญากู้ท้ายฟ้อง หนี้ครบกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระหนี้รายนี้ให้โจทก์
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริงตามฟ้อง แต่ในวันทำสัญญาจำเลยได้รับเงินไปเพียง ๔,๐๐๐ บาท ส่วนเงินที่เหลือโจทก์ให้มารับใน ๗ วัน แต่ในที่สุดจำเลยก็ยังไม่ได้รับเงินที่เหลือ ขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์รับชำระหนี้เพียง ๔,๐๐๐ บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงิน ๔,๐๐๐ บาทและดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๔๙๘ จนถึงวันชำระเสร็จให้โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระต้นเงิน ๖,๑๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๔๙๘ จนถึงวันชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์มีเอกสารสัญญากู้เป็นหลักฐานปรากฎชัดเจนในจำนวนเงินที่กู้ และระบุว่าได้รับเงินไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว จำเลยมิได้ต่อสู้ว่า สัญญากู้นี้เป็นโมฆะหรือไม่สมบูรณ์ด้วยประการใด ๆ จะนำสืบว่ารับเงินกู้ไปไม่ครบจำนวน ดังข้อความตามสัญญานั้น หาได้ไม่
พิพากษายืน.