คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1697/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2521 จำเลยกู้ยืมและรับเงินไปจากโจทก์ 200,000 บาท แล้วนำสืบว่ากู้ยืมกันก่อนหน้านั้น คิดดอกเบี้ยและลดหนี้กันแล้วจึงทำสัญญากันใหม่ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2521 เป็นเงิน200,000 บาท ดังนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องนำสืบนอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2521 จำเลยได้กู้และรับเงินไปจากโจทก์ 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยชั่งละหนึ่งบาทต่อเดือน กำหนดชำระคืนภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2521 จำเลยไม่ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 213,750 บาท ขอให้ศาลบังคัให้จำเลยชำระเงินจำนวนนี้ให้โจทก์ และให้ชำระดอกเบี้ยในต้นเงิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยชั่งละหนึ่งบาทต่อเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ตามฟ้อง เอกสารท้ายฟ้องโจทก์ทำขึ้นเอง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงิน 200,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราชั่งละหนึ่งบาทต่อเดือน นับแต่วันถัดจากวันทำสัญญากู้จนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้ในสัญญาจ.1 ฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยกู้และรับเงินไปในวันที่ 29 กรกฎาคม 2521 เป็นเงิน200,000 บาท นำสืบว่ากู้ยืมกันก่อนหน้านั้น คิดดอกเบี้ยและลดหนี้กันแล้วจึงได้ทำสัญญากันใหม่ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2521 เป็นเงิน 200,000 บาท ไม่ใช่เป็นเรื่องนำสืบนอกประเด็น ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share