แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญา เพราะจำเลยหลบหนีในคดีอาญานั้น ถ้านายประกันประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งศาลว่า ศาลชั้นต้นควรให้โอกาสนายประกันติดตามตัวจำเลยต่อไปอีกก็จะต้องยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากนายประกันผิดสัญญาประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2515 ปรับนายประกันตามสัญญา และเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไป วันที่ 22 พฤษภาคม 2515 ต่อมาวันที่ 16 พฤษภาคม 2515 นายประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่า คดีนี้ศาลได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปในวันที่ 22 พฤษภาคม 2515 จึงควรให้โอกาสแก่นายประกันได้ติดตามตัวจำเลยต่อไปอีกหนึ่งเดือน ก็จะไม่เกิดการเสียหายแต่อย่างใดขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งปรับนายประกัน เพื่อให้โอกาสนายประกันนำตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ อ้างอุทธรณ์เกินกำหนดเวลาที่จะอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
นายประกันอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งว่าคำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ให้ยกอุทธรณ์
นายประกันฎีกาว่า กรณีสั่งปรับนายประกันเช่นนี้ เป็นการบังคับคดีทางแพ่ง ชอบที่จะอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน ขอให้สั่งรับอุทธรณ์ของนายประกัน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การปล่อยชั่วคราวนี้บัญญัติอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 ซึ่งบัญญัติว่า ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ให้ผู้ที่ถูกบังคับตามสัญญาประกันหรือพนักงานอัยการมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ ดังนั้น การอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งในกรณีเช่นนี้ก็ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยอุทธรณ์ฎีกา ทั้งการสั่งปรับนายประกันก็เป็นเรื่องที่สั่งในคดีอาญา จะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการอุทธรณ์ฎีกามาใช้บังคับหาได้ไม่
พิพากษายืน