คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1686/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การตีความแสดงเจตนานั้น กฎหมายให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนตามตัวอักษร ในการแบ่งที่ดินระหว่างเจ้าของรวมซึ่งมีกรรมสิทธิ์คนละส่วนเท่าๆ กัน แม้ฝ่ายหนึ่งจะตกลงให้อีกฝ่ายหนึ่งเลือกเอาก่อน โดยมิได้กำหนดวิธีการรังวัดแบ่งแยกไว้ชัดแจ้ง ก็มิได้หมายความว่า ฝ่ายที่มีสิทธิเลือก จะเลือกชี้แบ่งเอาได้ตามใจชอบเมื่อมีปัญหาว่าจะแบ่งอย่างไรจึงจะถูกต้องตรงตามเจตนาศาลย่อมต้องพิเคราะห์ถึงสภาพของที่ดินประกอบ เพื่อหยั่งทราบถึงเจตนาอันแท้จริง
โจทก์ 2 คนและจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลยอมแบ่งที่ดินกันคนละส่วนเท่าๆ กัน ที่ดินนั้นด้านตะวันออกติดทะเล และด้านตะวันตกมีทางออก ทางทิศเหนือสุดมีบ้านจำเลยปลูกอยู่ และทิศใต้สุดมีบ้านโจทก์ที่ 1 ปลูกอยู่ โจทก์ที่ 1 ได้ส่วนแบ่งของตนไปแล้ว โดยได้ที่ดินด้านทิศใต้สุดยาวจากทิศตะวันออกไปตะวันตก ส่วนที่เหลือ โจทก์ ที่ 2 แถลงต่อศาลว่า ให้จำเลยเลือกเอาก่อนตามสภาพของที่ดิน หากแบ่งเป็นส่วนๆ เรียงต่อจากโจทก์ที่ 1 ยาวจากทิศตะวันออกไปตะวันตก ที่ดินจะมีทางออกและติดทะเลด้วยกันทุกแปลงหากแบ่งยาวจากทิศเหนือไปใต้ แปลงที่อยู่ติดทะเลจะถูกที่ดินผู้อื่นล้อมขนาบไม่มีทางออก ย่อมเล็งเห็นเจตนาของโจทก์ที่ 2 ได้ว่า ประสงค์ให้แบ่งที่ดินเป็น 2 ส่วน ยาวจากทิศตะวันออกไปตะวันตกเรียงกันไป และติดทะเลด้วยกันทุกแปลง แล้วให้จำเลยเลือกเอาก่อนแปลงใดแปลงหนึ่ง ซึ่งได้เดือดร้อนด้วยกันทุกฝ่าย จำเลยจะเลือกแบ่งให้โจทก์ที่ 2 ได้ที่ดินด้านติดทะเลแต่ถูกล้อมขนาบไม่มีทางออกหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาเรื่องการแบ่งแยกที่ดินโฉนดที่ 799ระหว่างโจทก์ที่ 2 กับจำเลย ตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีว่า”ข้อ 1 จำเลยย่อมแบ่งที่พิพาทออกเป็น 3 ส่วน เป็นของโจทก์จำเลยคนละส่วน ส่วนของนายผึ่ง โจทก์คือบริเวณที่ดินซึ่งนายผึ่งโจทก์อยู่ทุกวันนี้ ส่วนของนางอบ โจทก์ที่ 2 กับส่วนของจำเลยให้รวมกันไว้”

ต่อมาโจทก์ทั้งสองขอให้ศาลเรียกตัวจำเลยมาเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม คดีสำหรับโจทก์ที่ 1 ไม่มีปัญหา สำหรับโจทก์ที่ 2 แถลงต่อศาลว่า ส่วนของตน 1 ใน 3 ส่วนซึ่งรวมอยู่กับจำเลยนั้น ให้จำเลยเลือกเอาก่อน ศาลแจ้งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินให้รังวัดแบ่งแยกที่พิพาทที่เหลือจากแบ่งให้โจทก์ที่ 1 ให้แบ่งเป็น 2 ส่วนตามแต่จำเลยนำชี้ ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินแจ้งมายังศาลว่าจำเลยต้องการให้แบ่งโดยขีดเส้นจากทิศเหนือไปทางทิศใต้เมื่อแบ่งแล้วจะทำให้ที่ดินแปลงหนึ่งติดทะเลอีกแปลงหนึ่งไม่ติดฝ่ายนางอบ โจทก์ที่ 2 นำรังวัดแบ่งแยกโดยขีดเส้นแบ่งจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออกให้ได้เนื้อที่คนละเท่า ๆ กัน แบ่งแล้วที่ดินจะติดทะเลทั้งสองแปลง

ศาลชั้นต้นนัดสอบถามแล้วสั่งให้แบ่งที่ดินให้ตามที่จำเลยต้องการ ฯลฯ

โจทก์ที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 26 มีนาคม2506 ศาลชั้นต้นจดคำแถลงของโจทก์ที่ 2 ไว้แต่เพียงว่า “นางอบโจทก์แถลงว่า ส่วนของตน 1 ใน 3 ส่วนซึ่งรวมอยู่กับจำเลยนั้น จำเลยเลือกเอาก่อน” มิได้จดแจ้งวิธีการรังวัดแบ่งแยกไว้ว่าให้วัดจากทิศไหนไปทิศไหน จึงมีปัญหาเรื่องการแปลเจตนาของโจทก์ที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 132 บัญญัติว่า การตีความแสดงเจตนานั้น ท่านให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนตามตัวอักษรศาลฎีกาเห็นว่า ในการแปลเจตนาของโจทก์ที่ 2 นั้น จำต้องพิเคราะห์ถึงสภาพที่ดินพิพาทประกอบด้วย ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องระบุว่าที่ดินโฉนดที่ 799 ที่พิพาททิศตะวันออกจดทะเลมีบ้านโจทก์ที่ 1 ซึ่งหมายสีเขียว อยู่ตอนใต้สุดซึ่งได้รังวัดแบ่งแยกส่วนของโจทก์ที่ 1 ซึ่งอยู่ตอนใต้ไปแล้ว อีก 2 ส่วนที่เหลือมีบ้านจำเลยซึ่งหมายสีแดงอยู่ตอนเหนือสุด ดังนี้ เจตนาของโจทก์ที่ 2 หรือแม้วิญญูชนทั่วไปก็ดี ย่อมเล็งเห็นว่า ถ้าแบ่งเป็นส่วน ๆ เรียงกันไปจากโจทก์ที่ 1 คือวัดจากทิศตะวันออกซึ่งเป็นด้านที่ติดทะเลไปทางทิศตะวันตกเรียงเป็นลำดับไป ที่ดินจะมีทางออกและติดทะเลด้วยกันทุกแปลง หากแบ่งจากเหนือไปใต้ แปลงที่อยู่ติดทะเลจะถูกที่ดินคนอื่นล้อมขนาบทั้งด้านหลังและด้านข้าง ไม่มีทางออกไปทางอื่นบนผืนแผ่นดินได้ นอกจากลงทะเลทางเดียว ดังนั้นที่โจทก์ที่ 2 แถลงว่าให้จำเลยเลือกเอาก่อนนั้น ย่อมเล็งเห็นเจตนาอันแท้จริงของโจทก์ที่ 2 ได้ว่า ต้องการให้แบ่งที่ดินพิพาทที่เหลือ 2 ส่วนจากทิศตะวันออกไปตะวันตกเรียงกันไปและติดทะเลด้วยกันทุกแปลง แล้วให้จำเลยเลือกเอาแปลงใดแปลงหนึ่งก่อน ซึ่งจะไม่เดือดร้อนด้วยกันทุกฝ่าย หาใช่โจทก์ที่ 2 เจตนาให้จำเลยกำหนดวิธีแบ่งให้ตนต้องเดือดร้อนไม่มีทางออกดังกล่าวไม่ที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดวิธีแบ่งโดยวัดจากเหนือไปใต้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษากลับ ให้แบ่งแยกที่ดินโฉนดที่ 799 ที่พิพาทที่เหลือจากแบ่งแยกให้นายผึ่งโจทก์ที่ 1 ไปแล้ว เหลือเท่าใดให้รังวัดแบ่งแยกจากทิศตะวันออกด้านที่จดทะเลไปทางทิศตะวันตกเป็นสองส่วนเนื้อที่เท่า ๆ กัน แล้วให้จำเลยเลือกเอาก่อนว่าจะเอาส่วนใดส่วนที่เหลือให้เป็นของนางอบ โจทก์ที่ 2

Share