แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ทนายจำเลยแถลงคัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์โดยอ้างเหตุว่าคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ไม่บอกเหตุว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยอย่างไรก่อนศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องนั้นย่อมถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้ฟังจำเลยแล้วก่อนมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา175วรรคสองทั้งบทบัญญัติดังกล่าวก็มิได้ระบุว่าโจทก์จะต้องแสดงเหตุผลในการถอนฟ้องในคำร้องหรือต้องแถลงเหตุผลในการถอนฟ้องให้จำเลยทราบแต่อย่างใดเพราะแม้จำเลยจะคัดค้านหรือไม่ก็ตามศาลก็มีอำนาจที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้เพราะเป็นดุลพินิจของศาลดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นได้พิจารณาข้อคัดค้านของทนายจำเลยที่แถลงต่อศาลและรูปคดีของทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหากถูกโจทก์ฟ้องใหม่ศาลก็อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน11,250,783.53 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 7,348,453 บาท หากจำเลยไม่ชำระขอให้ยึดที่ดินที่จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้างนำออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระแก่โจทก์ หากไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่น ๆ ของจำเลยออกขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ
จำเลยให้การว่า สัญญากู้เงินยังไม่ถึงกำหนดชำระเงิน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพร้อมศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีประเด็นข้อยุ่งยากไม่จำต้องชี้สองสถานให้นัดสืบพยานโจทก์
ก่อนถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายจำเลยแถลงคัดค้านว่า คำร้องของถอนฟ้องไม่บอกเหตุผลว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยอย่างไร
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ไม่ปรากฏว่าการถอนฟ้องเป็นเหตุให้จำเลยเสียหายหรือเสียเปรียบเป็นประการใด จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เห็นว่า การที่ทนายจำเลยแถลงคัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์โดยอ้างเหตุว่าคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ไม่บอกเหตุผลว่าไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยอย่างไรก่อนศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้ฟังจำเลยแล้วก่อนมีคำสั่งตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 วรรคสอง (1) บัญญัติไว้จำเลยหาได้อ้างเหตุผลต่าง ๆ ในการคัดค้านตามที่ปรากฏในอุทธรณ์คำสั่งไม่ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตา 175 วรรคสองบัญญัติว่า “ภายหลังจำเลยยื่นคำให้การแล้วโจทก์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเพื่ออนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้”เห็นว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวมิได้ระบุว่าโจทก์จะต้องแสดงเหตุผลในการถอนฟ้องในคำร้องหรือต้องแถลงเหตุผลในการถอนฟ้องให้จำเลยทราบแต่อย่างใด เพราะแม้จำเลยจะคัดค้านหรือไม่ก็ตาม ศาลก็มีอำนาจตามบทบัญญัติดังกล่าวที่จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้เพราะเป็นดุลพินิจของศาล สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิจารณาข้อคัดค้านของทนายจำเลยที่แถลงต่อศาลและรูปคดีของทั้งสองฝ่ายแล้ว เห็นว่า ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหากถูกโจทก์ฟ้องใหม่จึงอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่า ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจในการสั่งโดยชอบแล้ว แม้โจทก์นำคดีมาฟ้องใหม่จำเลยก็มีสิทธิต่อสู้คดีได้เต็มที่ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับว่า ให้บังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้น