แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 จะต้องมีเจตนาพิเศษเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือผู้อื่นได้รับชำระหนี้
จำเลยขายทรัพย์จำนองเพื่อชำระหนี้จำนองภายหลังได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ให้ชำระหนี้ จำเลยมิได้ยอมรับว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้ เมื่อถูกฟ้อง จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นหนี้โจทก์ คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้หรือไม่ยังโต้เถียงกันอยู่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350, 91 ลงโทษจำคุกกระทงละ 6 เดือน เรียงกระทงลงโทษรวมจำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์จำเลยนำสืบฟังได้ว่าจำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำเลยได้จำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทไว้กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ส่งเสริมเงินทุนไทย จำกัด จำนวน 3,000,000 บาท ต่อมาวันที่ 17 มิถุนายน 2526โจทก์โอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพิพาทให้บริษัทเปาโลวิลล่า จำกัด จำนวน 3,500,000 บาทตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือสัญญาขายที่ดินเอกสารหมาย จ.10 และจำเลยได้โอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์ทั้งสี่หมายเลขให้บริษัทเปาโลวิลล่า จำกัดด้วย โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ค่าซื้อหุ้นต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 11กรกฎาคม 2526 ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามสำเนาภาพถ่ายคำพิพากษาเอกสารหมาย จ.8 จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถาคดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ และปัจจุบันจำเลยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทพรมเอ็คซเพรช จำกัด
มีปัญหาว่า การที่จำเลยโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและสิทธิการเช่าโทรศัพท์ให้บริษัทเปาโลวิลล่าจำกัด เป็นการโกงเจ้าหนี้คือโจทก์หรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเป็นหนี้จำนอง 3,000,000 บาทแต่ขายทรัพย์จำนองพร้อมสิทธิการเช่าโทรศัพท์ได้เงิน 3,500,000บาทนั้นเป็นการขายเพื่อชำระหนี้จำนองตามปกติ แม้จะขายภายหลังจำเลยได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ให้ชำระหนี้และทราบดีว่าโจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้แล้วก็ตาม แต่จำเลยก็มิได้ยอมรับว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้และเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ค่าซื้อหุ้น จำเลยก็ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นหนี้และยังอ้างคำพิพากษาฎีกาว่าข้อเท็จจริงเช่นเดียวกันนี้ศาลเคยวินิจฉัยให้จำเลยในคดีนั้นเป็นฝ่ายชนะคดีด้วย ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 นั้นผู้ที่จะมีความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวจะต้องมีเจตนาพิเศษเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือผู้อื่นได้รับชำระหนี้ คดีนี้ได้ความว่า จำเลยขายทรัพย์จำนองเพื่อชำระหนี้จำนอง เมื่อถูกโจทก์ฟ้อง จำเลยก็ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นหนี้โจทก์คดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้หรือไม่ ยังโต้เถียงกันอยู่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้อง………’
พิพากษายืน.