คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1663/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกเช็คฉบับพิพาทที่จังหวัดเชียงใหม่ ธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คฉบับพิพาทคือธนาคารในจังหวัดเชียงใหม่ เพียงแต่ผู้ทรงเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเอาเช็คนั้นมาสลักหลังแลกเงินไปจากโจทก์ที่ในกรุงเทพมหานครโดยจำเลยมิได้ร่วมรู้เห็นด้วย จะถือว่าเป็นความผิดเกี่ยวพัน โดยกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่เกิดเหตุอีกแห่งหนึ่งนั้นไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การจำกัดสาขาเชียงใหม่ จำนวนเงิน 5,000 บาท มอบให้ผู้อื่นเป็นการชำระหนี้ต่อมานายพวง สัมพันธ์นนท์ได้สลักหลังโอนเช็คดังกล่าวให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ โจทก์ได้นำเช็คเข้าบัญชีโจทก์ที่ธนาคารในกรุงเทพมหานคร แต่ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การจำกัด สาขาเชียงใหม่ ปฏิเสธการจ่ายเงิน การกระทำของจำเลยเป็นการสั่งจ่ายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น เหตุเกิดที่ตำบลสมเด็จเจ้าพระยา อำเภอคลองสาน กรุงเทพมหานคร และตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวเนื่องกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า ความผิดเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกเขตอำนาจศาลอาญา จึงมีคำสั่งไม่รับคดีไว้พิจารณา ให้จำหน่ายคดีเสีย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า จำเลยมีที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ จำเลยออกเช็คฉบับพิพาทที่จังหวัดเชียงใหม่ ธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทคือธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การจำกัด สาขาเชียงใหม่ ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำผิดในคดีนี้ต้องถือว่าเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพียงแต่นายพวง สัมพันธ์นนท์ ผู้ทรงเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเอาเช็คนั้นมาสลักหลังแลกเงินไปจากโจทก์ที่บ้านตำบลสมเด็จเจ้าพระยา อำเภอคลองสาน กรุงเทพมหานคร โดยที่จำเลยไม่ได้ร่วมรู้เห็นด้วย จะถือว่าเป็นความผิดเกี่ยวพันกัน โดยกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่เกิดเหตุอีกแห่งหนึ่งดังโจทก์ฎีกาหาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไม่รับฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว พิพากษายืน

Share