แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาเช่า ผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566
จำเลยให้การว่าการบอกเลิกสัญญาของนายสถิตย์ไม่มีผลตามกฎหมายเพราะนายสถิตย์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลย จำเลยทำสัญญาเช่ากับนายแม้นต่างหาก จำเลยไม่ได้กล่าวให้มีประเด็นไว้ในคำให้การว่า นายสถิตย์ไม่ใช่ตัวแทนของโจทก์ในการบอกเลิกสัญญา ฉะนั้นเพียงแต่คำให้การของจำเลย จึงยังไม่พอจะชี้ได้ว่าการบอกเลิกสัญญานั้น ไม่มีผลตามกฎหมาย
คดีที่จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นตามมาตรา 24 เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้สั่งชี้ขาด จำเลยจะยกขึ้นฎีกาไม่ได้(อ้างฎีกาที่ 1/2492)
ย่อยาว
คดีนี้ ฎีกาขึ้นมาตามมาตรา 24 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในกรณีที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่า โดยจำเลยเช่าตึกแถวของโจทก์ไม่มีกำหนดเวลา โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยแล้ว จำเลยไม่ส่งมอบสถานที่เช่าคืนและเรียกค่าเช่ากับค่าเสียหาย จำเลยให้การว่า
(1) จำเลยใช้สถานที่เช่าเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า
(2) โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า เพราะจำเลยไม่ได้ผิดนัดชำระค่าเช่าโจทก์จะเลิกสัญญาเช่าไม่ได้ตามสัญญาข้อ 11
(3) จำเลยทำสัญญากับนายแม้น ผู้รับมอบอำนาจเดิมนายสถิตย์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลย การบอกเลิกสัญญาของนายสถิตย์ไม่มีผลตามกฎหมาย
คู่ความรับกันว่า สัญญาเช่ารายนี้ไม่มีกำหนดเวลาโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยออกจากสถานที่เช่า ทราบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2488
ก่อนพิจารณา จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งชี้ขาดในประเด็นข้อกฎหมายเสียก่อน ตามมาตรา 24 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับพิจารณาข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้าง แล้ววินิจฉัยว่า
(1) ที่ว่าจำเลยอยู่ในสถานที่เช่า โดยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้น ข้อเท็จจริงยังโต้เถียงว่าจำเลยเช่าเพื่อการค้าหรือเพื่ออยู่อาศัย จำต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป
(2), (3) ข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้างว่าโจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาตามหนังสือสัญญาเช่า และว่าคำบอกกล่าวใช้ไม่ได้ฟังไม่ขึ้น
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
(1) ฎีกาของจำเลยเกี่ยวกับสัญญาข้อ 11 นั้น เห็นว่าเป็นข้อสัญญาที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาเช่า โจทก์จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ตามมาตรา 566 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(2) เรื่องนายสถิตย์บอกเลิกสัญญา จำเลยฎีกาว่าไม่มีผลตามกฎหมายนั้น ตามคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยอ้างแต่เพียงว่านายสถิตย์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลย จำเลยทำสัญญากับนายแม้นต่างหาก จำเลยไม่ได้กล่าวในคำให้การ ให้มีประเด็นว่านายสถิตย์ไม่ใช่ตัวแทนของโจทก์ในการบอกเลิกสัญญา เพียงแต่ปรากฎตามคำให้การ ของจำเลย จำเลยจึงไม่มีข้อที่จะชี้ได้ว่า การบอกเลิกสัญญาไม่มีผลตามกฎหมาย
(3) ข้ออ้างของจำเลยที่ว่า ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้น ศาลชั้นต้นไม่ได้สั่งชี้ขาดเบื้องต้นตามมาตรา 24 จำเลยจึงฎีกาข้อนี้ไม่ได้
พิพากษายืน