แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องที่มิได้บรรยายให้ชัดแจ้ง ไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเมื่อวันเดือนใด ฯลฯ ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๐๗ เวลากลางวัน โจทก์ได้ซื้อข้าวโพดจำเลย ๗๐๐ ถัง ราคา ๗,๐๐๐ บาท ชำระเงินแล้ว ฝากข้าวโพดไว้กับจำเลย จำเลยรับมอบไว้ในครอบครอง ต่อมาประมาณ ๒ เดือนเศษ เวลากลางวัน โจทก์นำเกวียนจะไปบรรทุกข้าวโพดคืน จำเลยกลับทุจริตเบียดบังเอาเป็นประโยชน์ตนเสีย ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๓๕๒
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องไม่ระบุวันกระทำผิด ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๘ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๐๗ เวลากลางวัน โจทก์ได้ซื้อข้าวโพดจากจำเลย ๗๐๐ ถัง แล้วมอบฝากไว้กับจำเลย ต่อมาประมาณ ๒ เดือนเศษ โจทก์จะไปเอาข้าวโพด ๗๐๐ ถังจากจำเลย จำเลยกลับทุจริตเบียดบังเอาข้าวโพด ๗๐๐ ถังนั้นไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเท่านั้น มิได้บรรยายให้แจ้งชัดว่า วันที่โจทก์ไปเอาข้าวโพดที่ฝากจำเลยนั้นเป็นวันเดือนใดแน่ จึงไม่แน่นอนว่าโจทก์หาว่าจำเลยเบียดบังไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยเมื่อวันเดือนใด หรือระหว่างวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๐๗ ถึงวันเดือนใดอันเป็นวันที่รู้ว่าเกิดการกระทำผิด ฟ้องโจทก์ไม่บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับวันกระทำผิด ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) พิพากษายืน