คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1632/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้มีชื่อในโฉนดที่ดินซึ่งเป็นของผู้อื่นจะถือว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธินั้น จะต้องนำสืบให้ได้ความว่าเจ้าของอันแท้จริงได้ทราบแลยินยอมด้วย อ้างฎีกาที่ 612/2471 ครอบครอง เข้ามาอยู่ในฐานเป็นญาติผู้ใหญ่ไม่เรียกว่าปกครองโดยปรปักษ์ มฤดก อำนาจฟ้อง ทายาทมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้อื่นแต่ผู้เดียวได้โดยทายาทอื่น ๆ ไม่ต้องเข้าชื่อร่วมกันเป็นโจทก์ ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.62 ใบมอบอำนาจ ใบมอบอำนาจที่ถือว่าตัวความแต่งทนายให้มีอำนาจความได้ตลอดจนการอุทธรณ์ฎีกา

ย่อยาว

ได้ความว่าที่ดินรายพิพาทนี้เป็นที่มฤดกเดิมเป็นของ ญ.โจทก์จำเลยต่างก็เป็นญาติของ ญ.เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๙ ญ.ได้ทำหนังสือยกที่รายนี้ให้แก่มารดาโจทก์ ภายหลังมารดาโจทก์ถึงแก่กรรม โจทก์แลน้อง ๆ เป็นผู้รับมฤดก แต่ขณะนั้นยังเป็นผู้เยาว์อยู่ในความปกครองดูแลของจำเลย โจทก์ได้ปกครองที่รายนี้ตลอดมาจนเกิดคดีนี้ จำเลยได้เข้ามาอยู่ในที่รายนี้โดยฐานเป็นญาติผู้ใหญ่ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๔ จำเลยได้ขอโฉนดที่รายนี้ลงชื่อจำเลยในหน้าโฉนดแต่ผู้เดียว บัดนี้บรรดาน้องโจทก์ได้ตกลงให้โจทก์เป็นผู้รับมฤดกแต่ผู้เดียว โจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้ใส่ชื่อโจทก์ลงในหน้าโฉนด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าที่รายพิพาทนี้เป็นของโจทก์ให้ลงชื่อโจทก์ในโฉนดเป็นเจ้าของต่อไป
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจะอ้างว่าน้องโจทก์สละสิทธิในการรับมฤดกให้แก่โจทก์ไม่ได้ แลศาลจะยกมาตรา ๑๓๕๙-๓๐๒ ขึ้นวินิจฉัยหาได้ไม่ แลว่าทนายความไม่มีอำนาจลงนามเป็นผู้อุทธรณ์แทนโจทก์โดยใบไว้ความฉะบับที่ ๒ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้จำกัดอำนาจของทนายความและใบรับรองให้ทนายมีสิทธิของนามในฟ้องอุทธรณ์ได้นั้น ได้ทำเมื่อพ้นกำหนดอายุยื่นอุทธรณ์แล้ว จึงเป็นอันใช้ไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ตัวความได้แต่งทนายคนเดียวให้ว่าความตลอดถึงชั้นฎีกา โดยมีใบแต่งทนายที่ทำก่อนใช้ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งฉะบับหนึ่งซึ่งทนายมีสิทธิจะลงนามในอุทธรณ์ฎีกาได้ กับได้แสดงใบรับรองในภายหลังอีกนี้ แสดงว่าตัวความมีเจตนาให้ทนายลงนามในอุทธรณ์ฎีกาให้โดยไม่จำกัด ส่วนใบแต่งทนายฉะบับที่ ๒ ตัวความก็ได้ระบุ ม.๖๒ แห่งประมวลวิธีพิจารณาแพ่งไว้ พอจะแปลได้ว่าตัวความให้อำนาจตามกฎหมายมาตรานี้รวมทั้งที่จำกัดไว้นั้นด้วยทั้งหมด
ส่วนสข้ออำนาจฟ้องนั้นเห็นว่าฟ้องโจทก์ว่า โจทก์ได้อำนาจมาจากเจ้าของร่วมกันจำเลยเป็นคนนอก จำเลยไม่มีสิทธิจะโต้แย้งในกิจของผู้อื่นอันเป็นสิทธิระหว่างเจ้าของร่วม ม.๓๐๒ บัญญัติเพื่อประโยชน์แก่เจ้าของร่วม จะยกมาตรานี้ขึ้นเถียงนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลล่างว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องได้นั้นชอบแล้ว แลเห็นว่า จำเลยเข้าอยู่ในที่รายนี้ในฐานเป็นญาติผู้ใหญ่ของโจทก์ ทั้งโจทก์ก็มิได้ละทิ้งที่รายพิพาทนี้จะฟังว่าจำเลยครอบครองโดยปรปักษ์หาได้ไม่ แลในข้อที่ลงชื่อจำเลยในโฉนดแต่ฝ่ายเดียว แม้โจทก์จะทราบก็ดี แต่ก็ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ยินยอม แลไม่ถือว่าเป็นข้อตัดกรรมสิทธิของโจทก์ จำเลยจะต้องนำสืบให้เห็นว่าโจทก์ทราบแลยินยอมโดยตรงหรือปริยายด้วย หรือได้มาโดยอายุความ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share