คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1625/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญามีใจความว่า โจทก์ยอมตกลงเซ้งตึกแถวห้องพิพาทให้จำเลยเป็นจำนวนเงิน 73,000 บาท จำเลยได้วางมัดจำให้โจทก์ไว้แล้ว 2,000 บาท ด้านหลังมีสัญญาต่อท้ายค่าเซ้งตึกความว่า โจทก์ได้รับเงินค่าเซ้งตึกเพิ่มจากที่ได้วางมัดจำไว้อีก 38,000 บาท กับเช็คหนึ่งฉบับ ลงวันที่และชื่อโจทก์ผู้รับเงินไว้ กับมีบันทึกว่าโจทก์รับเงินผ่อนอีก 4,000 บาท เห็นได้ว่าตามสัญญาดังกล่าวไม่ปรากฏข้อความตอนใดที่แสดงว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าตึกพิพาทและกำหนดราคาค่าเช่าไว้ อันเข้าลักษณะเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าตึกแถวเลขที่ 283/1 ของโจทก์ ค่าเช่าเดือนละ100 บาท จำเลยไม่ชำระค่าเช่าถึงวันฟ้อง 30 เดือน ขอให้จำเลยออกไปและชำระค่าเช่าที่ค้าง 3,000 บาท และค่าเสียหายเดือนละ 1,000 บาท นับจากวันฟ้องจนกว่าจะออกไป

จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้เช่าห้องพิพาท แต่ได้ทำสัญญาเซ้งกับโจทก์โจทก์ว่าจะไปโอนห้องพิพาทให้จำเลย จำเลยได้ให้เงินช่วยค่าก่อสร้าง 40,000บาท โจทก์ผิดสัญญาไม่โอนห้องพิพาทให้จำเลย ไม่มีอำนาจฟ้อง ค่าเสียหายก็เพียงเดือนละ 100 บาท

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ทำสัญญาเซ้งตึกให้จำเลย สิทธิของจำเลยในการครอบครองใช้สอยห้องพิพาทไม่ใช่การเช่าทรัพย์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเช่าและค่าเสียหาย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะพิจารณาในชั้นนี้มีว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยตามเอกสารหมาย จ.4 เป็นสัญญาซึ่งโจทก์ให้จำเลยเช่าช่วงตึกรายพิพาทหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า สัญญาตามเอกสารหมาย จ.4 ซึ่งตรงกับฉบับสำเนาตามเอกสารหมาย ล.1 นั้น ใช้แบบพิมพ์สัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาวางมัดจำมาขีดฆ่า คำว่า “ซื้อขาย” แก้เป็นว่า “เซ้งตึกแถว” และแก้คำว่า “ขาย” ในสัญญาทุกแห่งเป็น “เซ้ง” สัญญาดังกล่าวมีใจความว่าโจทก์ยอมตกลงเซ้งตึกแถวห้องพิพาทเป็นราคาเงิน 73,000 บาท โดยจะโอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลย ณ ที่ว่าการอำเภอบางกอกใหญ่ในเดือนเมษายน 2516 ในการนี้จำเลยได้วางมัดจำให้โจทก์ไว้แล้วเป็นเงิน 2,000 บาท ด้านหลังของเอกสารหมาย ล.1 มีสัญญาต่อท้ายค่าเซ้งตึกลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2516 ข้อความว่า โจทก์ได้รับเงินค่าเซ้งตึกเพิ่มจากที่ได้วางมัดจำไว้อีกเป็นเงิน 38,000 บาทตามเช็คธนาคารศรีนคร จำกัดสาขาปทุมวัน หมายเลขเช็ค NO. B ส่วน 19 001554 เมื่อได้รับจ่ายฯ แล้วจะไปทำสัญญาโอนให้จำเลยที่อำเภอ ประมาณวันที่ 4 มิถุนายน 2516 และโจทก์ลงชื่อรับเงินไว้ กับมีบันทึกของโจทก์ลงวันที่ 22 มกราคม 2517 ว่า ได้รับเงินผ่อนอีก 4,000 บาท เห็นได้ว่าตามสัญญาดังกล่าวไม่ปรากฏข้อความตอนใดที่แสดงว่า โจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทและกำหนดราคาค่าเช่าไว้อันเข้าลักษณะเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 537

พิพากษายืน

Share