คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตึกแถวของโจทก์และของจำเลยอยู่ติดกัน ที่ดินและตึกแถวทั้งสองห้องนี้เดิมเป็นของเจ้าของคนเดียวกันโจทก์จำเลยต่างก็เช่าตึกแถวจากเจ้าของเดิม ระหว่างที่เช่าอยู่นั้นจำเลยได้ต่อเติมห้องน้ำห้องครัวที่ด้านหลังของตึกแถว โดยเจ้าของที่ดินคนเดิมรู้เห็นยินยอมต่อมาโจทก์จำเลยต่างก็ซื้อที่ดินและตึกแถวมาเป็นกรรมสิทธิ์ ปรากฏว่าที่ดินส่วนที่จำเลยต่อเติมเป็นห้องน้ำห้องครัวนั้นอยู่ในโฉนดที่โจทก์ซื้อ จำเลยเพิ่งครอบครองที่ดินดังกล่าวของโจทก์มาเพียง 2 ปี จึงหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ โจทก์จึงมีสิทธิบังคับให้จำเลยรื้อถอนห้องน้ำห้องครัวออกจากที่ดินโจทก์ได้ เพราะการก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวนั้นก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมไม่ใช่เข้าไปก่อสร้างโดยไม่รู้ว่าที่ดินนั้นเป็นของเจ้าของเดิม อันจะถือได้ว่าเป็นการสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตตามมาตรา 1312 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยต่างมีที่ดินและตึกแถวอยู่ติดกัน ปรากฏว่าห้องน้ำห้องครัวที่ด้านหลังตึกแถวของจำเลยนั้นรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ จึงขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนห้องน้ำห้องครัวออกไป
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า เดิมตึกแถวของโจทก์และของจำเลยเป็นของเจ้าของคนเดียวกัน โจทก์จำเลยต่างเช่าอยู่ ระหว่างที่เช่านั้น จำเลยได้ก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวออกไปทางด้านหลังของตึกแถวโดยเจ้าของเดิมยินยอม ต่อมาเจ้าของเดิมขายตึกแถวพร้อมที่ดินให้แก่ผู้เช่าแต่ละคน โจทก์และจำเลยต่างก็ซื้อห้องที่เช่าจากเจ้าของเดิมโดยจำเลยไม่ทราบว่าห้องน้ำห้องครัวของจำเลยรุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่โจทก์ซื้อจำเลยจึงกระทำโดยสุจริต ขอให้ยกฟ้องโจทก์และบังคับให้โจทก์จดทะเบียนภารจำยอมให้จำเลยมีสิทธิใช้ที่ดินส่วนที่ห้องน้ำห้องครัวของจำเลยตั้งอยู่
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยทราบดีว่า ห้องน้ำห้องครัวของจำเลยรุกล้ำที่ดินของโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่สุจริตและจำเลยไม่มีสิทธิที่จะให้โจทก์จดทะเบียนภารจำยอมให้จำเลยมีสิทธิใช้ที่ดินดังกล่าว ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อห้องน้ำห้องครัวออกไปจากที่ดินโจทก์ให้ยกฟ้องแย้งจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวในที่ดินพิพาทด้านหลังของตึกแถวที่จำเลยเช่าจากเจ้าของเดิมนั้น ก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมตลอดมาจนถึงวันที่จำเลยที่ ๑ ซื้อที่ดินและตึกแถวจากเจ้าของเดิมเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ แม้จำเลยที่ ๑ จะอ้างว่าโจทก์และจำเลยที่ ๑ ต่างซื้อห้องแถวที่เช่าจากเจ้าของเดิมตามสภาพที่เป็นอยู่แบ่งแยกเนื้อที่ตามความกว้างยาวของตัวตึกแถวแต่ละคูหา แต่เมื่อที่ดินส่วนที่จำเลยทั้งสองอาศัยสิทธิของเจ้าของเดิมปลูกห้องน้ำห้องครัวอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์ที่ได้ซื้อมาจากเจ้าของเดิม และจำเลยทั้งสองเพิ่งครอบครองที่ดินดังกล่าวมาถึงวันที่โจทก์ฟ้องเป็นเวลาประมาณ ๒ ปี จำเลยทั้งสองจึงหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดในที่ดินนั้นไม่ และไม่ใช่กรณีจำเลยทั้งสองสร้างโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๑๒ เพราะการที่จำเลยทั้งสองเข้าไปก่อสร้างต่อเติมห้องน้ำห้องครัวในที่ดินพิพาทก็โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินเดิม ไม่ใช่เข้าไปต่อเติมโดยไม่รู้ว่าที่ดินนั้นเป็นของผู้ให้เช่าตึกแถว
พิพากษายืน

Share