แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คดีก่อนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องคือคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมถึงที่สุดโดยศาลวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความ ดังนั้น การที่จำเลยนำอาวุธปืนมาแสดงต่อศาลในคดีดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ว่าอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อนเป็นอาวุธปืนคนละกระบอกกับอาวุธปืนของโจทก์ จึงไม่ใช่การแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดี เพราะอาวุธปืนดังกล่าวจะเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ ก็หาทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปไม่ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177,180, 91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองที่เกี่ยวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณามูลคดีของโจทก์สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีโจทก์มีมูลและประทับฟ้อง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ฟ้องนางเลี่ยม ไทยกุล และจำเลยขอให้รับชำระหนี้เงินยืม และคืนอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์เลขหมายทะเบียนปืน อ.บ.1/5362 เลขประจำปืน 95817ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 40/2514 ของศาลชั้นต้น ในระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าว จำเลยส่งอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ขนาด .32 ต่อศาล1 กระบอก และแถลงว่าเป็นอาวุธปืนที่โจทก์จำนำไว้ ศาลพิพากษาให้จำเลยรับเงินและส่งอาวุธปืนคืนโจทก์ ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยเอาอาวุธปืนของโจทก์ไปขูดลบเปลี่ยนแปลงเลขหมายทะเบียนปืนและเลขประจำปืน แล้วนำไปจดทะเบียนในสภาพเป็นอาวุธปืนเถื่อนตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่1620/2526 ของศาลชั้นต้น และในการพิจารณาคดีดังกล่าวจำเลยนำอาวุธปืนรีวอลเวอร์ .32 ทะเบียนเลขที่ ศ.ก…(เป็นตัวเลขไม่ชัดอ่านไม่ออก)/8080 เลขประจำปืน 795817 มาแสดงต่อศาลว่าเป็นอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อน คดีดังกล่าว ศาลวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้ว คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณามูลคดีสำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 และดำเนินการต่อไปตามรูปคดี ระหว่างการพิจารณาพิพากษาใหม่ของศาลชั้นต้น ปรากฏว่าคดีที่เป็นต้นเหตุของเรื่องคือคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมถึงที่สุด โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความดังนั้น การที่จำเลยนำอาวุธปืนมาแสดงต่อศาลเพื่อพิสูจน์ว่าอาวุธปืนที่จำเลยนำไปจดทะเบียนปืนเถื่อน เป็นอาวุธปืนคนละกระบอกกับอาวุธปืนของโจทก์ จึงไม่ใช่การแสดงพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดี เพราะอาวุธปืนดังกล่าวจะเป็นพยานหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่ก็หาทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน