แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันลักมือหมุนเครื่องยนต์รถไถนา 1 อัน และนอตขันแท่นเครื่องยนต์ 3 ตัว ของผู้เสียหายไป โดยเป็นการลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานทรัพย์ที่ลักเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรที่ผู้เสียหายมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมและเป็นการกระทำผิดโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์ที่ถูกลักนั้นไป จำเลยทั้งสี่จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(7)(8) วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ
โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายเป็นผู้มีอาชีพกสิกรรม จึงลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามมาตรา 335 วรรคสาม ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 335,336 ทวิ, 357, 359, 33 ริบรถยนต์กระบะของกลาง
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(7)(8) วรรคสี่, 336 ทวิ จำคุกคนละ 4 ปี 6 เดือน ยกฟ้องฐานรับของโจรและคำขอให้ริบรถยนต์ของกลาง
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า นายปรีชาอนันตรักษ์ ผู้เสียหายมีรถไถนาซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1 คัน ไว้สำหรับการทำนา วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 2 นาฬิกา ขณะที่ผู้เสียหายและภริยานอนอยู่ที่บ้านของตนซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูงอยู่ที่หมู่ที่ 9 ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานีมีคนร้าย 3 ถึง 4 คน เข้าไปที่ใต้ถุนบ้านของผู้เสียหายแล้วโยนเนื้อไก่ซึ่งคลุกยาฆ่าแมลงให้สุนัขของผู้เสียหายกิน ทำให้สุนัขของผู้เสียหายตาย 4 ตัว คนร้ายได้ถอดนอตที่ขันเครื่องยนต์ไว้กับรถไถนาเพื่อลักเครื่องยนต์รถไถนาของผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายลงจากบ้านคนร้ายจึงลักเครื่องยนต์รถไถนาไปไม่ได้ คงได้ไปเพียงมือหมุนเครื่องยนต์รถไถนา 1 อันและนอตขันแท่นเครื่องยนต์ 3 ตัว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสี่กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ โจทก์มีพยานคือนายปรีชา ผู้เสียหายเบิกความว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 2 นาฬิกา ผู้เสียหายได้ยินเสียงลูกสุนัขซึ่งเลี้ยงไว้ที่ใต้ถุนบ้านร้องผู้เสียหายจึงลงไปดู เห็นชาย 3 ถึง 4 คน ยืนอยู่ที่ใต้ถุนบ้านและพากันวิ่งหนีไปขึ้นรถยนต์กระบะขับออกไปทางถนนหนองปลาไหล รถคันดังกล่าวสีมืด ๆ ผู้เสียหายจำหมายเลขทะเบียนได้เฉพาะเลข 2 ตัวท้าย คือเลข 78ผู้เสียหายเห็นรถไถนาของผู้เสียหายยังอยู่จึงขึ้นบ้านไปนอนต่อ เวลาประมาณ 10 นาฬิกาผู้เสียหายลงมาที่ใต้ถุนบ้านเห็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ 4 ตัว ตายอยู่รอบบ้าน ที่ปากสุนัขมีฟองน้ำลาย ผู้เสียหายพบเนื้อไก่สีเขียว 1 ชิ้น ตกอยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน เมื่อตรวจดูทรัพย์สินอื่นก็ปรากฏว่ามือหมุนเครื่องยนต์รถไถนา 1 อัน และนอตขันแท่นเครื่องยนต์ 3 ตัว หายไปต่อมามีเจ้าพนักงานตำรวจไปแจ้งผู้เสียหายว่าจับคนร้ายได้ 4 คน และถามว่าทรัพย์สินของผู้เสียหายไปบ้างหรือไม่ ผู้เสียหายจึงแจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจทราบและมอบเนื้อไก่ดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานตำรวจ ผู้เสียหายไปดูของกลางที่สถานีตำรวจ พบว่ามือหมุนเครื่องยนต์รถไถนาและนอตขันแท่นเครื่องยนต์ของผู้เสียหายวางรวมอยู่กับของกลางอื่นที่ยึดได้จากจำเลยทั้งสี่ ผู้เสียหายจึงแจ้งความให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสี่ พันตำรวจโทธนา ขาวเจริญ เบิกความว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 2 นาฬิกา พยานกับพวกขับรถยนต์ของทางราชการออกตรวจท้องที่ไปตามถนนสายหนองระแหง-หนองปลาไหล เมื่อไปถึงหมู่ที่ 9 ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานีพยานพบรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บ – 3578 ชัยนาท แล่นสวนทางมา ขณะที่รถอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร มีชาย 2 คนกระโดดลงจากรถยนต์กระบะแล้ววิ่งหนีไปและคนที่นั่งคู่กับคนขับโยนของทิ้งข้างทางพยานจึงตรวจค้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพบว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนขับ จำเลยอื่นเป็นผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในรถ มีเนื้อไก่คลุกยาฆ่าแมลงวางอยู่ในรถ 1 ถุง และตกอยู่ข้างทางอีก 1 ถุง นอกจากนี้ยังมีมือหมุนเครื่องยนต์รถไถนา นอต คีมตัดลวดและทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการตามบัญชีของกลางคดีอาญา พยานจึงจับจำเลยทั้งสี่ข้อหาซ่องโจร เมื่อจำเลยทั้งสี่ไปถึงสถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองขาหย่างแล้วมีการตรวจค้นรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับอีกครั้งหนึ่ง พบยาฆ่าแมลงยี่ห้อแลนเนท 1 กระป๋องซ่อนอยู่ที่ยางอะไหล่ใต้ท้องรถยนต์คันดังกล่าว วันที่ 21 ตุลาคม2541 เวลาประมาณ 18 นาฬิกา ผู้เสียหายไปดูทรัพย์ของกลางแล้วยืนยันว่า มือหมุนเครื่องยนต์รถไถนา 1 อัน และนอตขันแท่นเครื่องยนต์ 3 ตัว เป็นของผู้เสียหาย พยานจึงแจ้งข้อหาแก่จำเลยทั้งสี่ว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนและทำให้เสียทรัพย์ พยานได้ส่งเนื้อไก่ที่พบที่บ้านของผู้เสียหาย เนื้อไก่ที่พบในรถยนต์ของกลาง และที่ตกอยู่ข้างทางไปให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์พิษณุโลกตรวจว่ามีสารพิษชนิดเดียวกันหรือไม่ผลการตรวจวิเคราะห์ ปรากฏว่าเนื้อไก่ทั้งสามรายการมีสารเคมีกำจัดแมลงประเภทคาร์บาเมทชนิดเมทโธมิล มีชื่อทางการค้า เช่น แลนเนทหรือน็อกเด็ดผสมอยู่ เห็นว่าผู้เสียหายไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยทั้งสี่เบิกความไปตามที่อ้างว่ารู้เห็นโดยมิได้ปรักปรำจำเลยทั้งสี่ คำเบิกความมีเหตุผล ส่วนพันตำรวจโทธนาเป็นเจ้าพนักงานตำรวจผู้ปฏิบัติงานไปตามหน้าที่ โดยไม่เคยรู้จักจำเลยทั้งสี่มาก่อน และไม่มีเหตุที่จะระแวงสงสัยว่ากลั่นแกล้งจำเลยทั้งสี่ คำเบิกความของพยาน 2 ปากนี้ จึงมีน้ำหนักน่าเชื่อ ที่จำเลยทั้งสี่นำสืบว่า วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์กระบะไปรับจำเลยที่ 2 ซึ่งอยู่ตำบลสว่างอารมณ์อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี ด้วยกัน แล้วไปรับจำเลยที่ 3 ที่อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ แล้วกลับไปรับจำเลยที่ 4 ที่ตำบลสว่างอารมณ์อีก เพื่อจะไปดูพระเครื่องที่บ้านของนางบุญส่งที่อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี แต่เมื่อพร้อมกันแล้วจำเลยทั้งสี่กลับไปรับประทานอาหารและดื่มสุราอยู่ที่ตลาดริมน้ำ อำเภอเมืองอุทัยธานีจังหวัดอุทัยธานี จนถึงเวลา 24 นาฬิกา จึงเดินทางไปบ้านของนางบุญส่ง แต่หลงทางและถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับนั้น จำเลยทั้งสี่มิได้นำนางบุญส่งมาเบิกความ และเป็นเรื่องที่ผิดปกติที่จำเลยทั้งสี่จะไปขอดูพระเครื่องที่บ้านคนที่ไม่ปรากฏว่าสนิทสนมคุ้นเคยกันมาก่อนในเวลาหลัง 24 นาฬิกา อีกทั้งไม่น่าเชื่อว่าขณะขับรถยนต์เดินทางในเวลากลางคืนจำเลยที่ 1 จะเห็นมือหมุนเครื่องยนต์รถไถนาตกอยู่บนถนนและจำเลยที่ 1 จอดรถเก็บมือหมุนนั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นทรัพย์ที่มีขนาดไม่ใหญ่ มีราคาเพียง 200 บาท และเป็นของเก่าพยานหลักฐานของจำเลยทั้งสี่จึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ การที่พันตำรวจโทธนากับพวกจับจำเลยทั้งสี่ได้ที่หมู่บ้านเดียวกับที่ผู้เสียหายอยู่ และจับได้ในเวลาใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับเป็นรถยนต์กระบะ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บ – 3578 ชัยนาท ซึ่งสอดคล้องกับที่ผู้เสียหายเบิกความว่า คนร้ายขับรถยนต์กระบะสีมืด ๆ หมายเลขทะเบียน 2 ตัวท้าย คือเลข 78 สารพิษที่พบในเนื้อไก่ที่คนร้ายนำไปให้สุนัขของผู้เสียหายกิน เป็นสารพิษชนิดเดียวกับที่พบในเนื้อไก่ในรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ และเป็นสารพิษชนิดเดียวกับในกระป๋องยาฆ่าแมลงที่ซ่อนในยางอะไหล่ใต้รถยนต์คันดังกล่าว อีกทั้งพบมือหมุนเครื่องยนต์รถไถนาของผู้เสียหายในรถยนต์คันดังกล่าวด้วย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันลักมือหมุนเครื่องยนต์รถไถนา 1 อันและนอตขันแท่นเครื่องยนต์ 3 ตัว ของผู้เสียหายไปโดยเป็นการลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถาน ทรัพย์ที่ลักเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักรที่ผู้เสียหายมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมและเป็นการกระทำผิดโดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์ที่ถูกลักนั้นไป จำเลยทั้งสี่จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(7)(8) วรรคสอง, 336 ทวิ แต่ไม่มีความผิดตามมาตรา 335 วรรคสาม เพราะโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าผู้เสียหายเป็นผู้มีอาชีพกสิกรรมขาดองค์ประกอบความผิดตามบทมาตราดังกล่าว จึงลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามมาตรา 335 วรรคสามไม่ได้ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(7)(8) วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิ ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6