คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาเช่าเคหะกันมีอายุ 1 ปี แต่มีข้อแม้ไว้ข้อ 1 ว่า ถ้าให้ผู้เช่าตกลงขายที่และบ้านเช่าให้แก่ผู้ใดก่อน ครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้วผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือนและผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาศตกลงซื้อในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร ดังนี้ ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด เมื่อผู้ให้เช่าขายสถานที่เช่าแก่คนอื่นไปโดยได้ปฏิบัติตามสัญญาแล้ว ก็ย่อมเลิกการเช่าได้ก่อนกำหนด 1 ปีและผู้เช่าก็จำต้องออกจากสถานที่เช่าไป จะอ้างว่าได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์ที่ ๑ เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินซึ่งได้ให้จำเลยเช่าเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๙๑ มีอายุ ๑ ปีและได้ขายให้แก่โจทก์ที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๙๑
ตามสัญญาเช่าข้อ ๓ มีข้อความว่า ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายที่ดินและบ้านที่ให้เช่ารายนี้ ให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดตามสัญญา ผู้ให้เช่าจะได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อให้ผู้เช่าเตรียมตัวออกจากบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒ เดือนและถ้าหากจะมีการซื้อขายที่ดินและบ้านรายนี้ ผู้ให้เช่าจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้เช่าทราบว่า จะตกลงขายให้แก่ผู้ใดเป็นจำนวนเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาศตกลงซื้อ โจทก์ที่ ๑ จีงได้ขายแก่โจทก์ที่ ๒ และได้แจ้งให้จำเลยทราบตามสัญญาแล้ว แต่จำเลยและบริวารไม่ยอมออก จึงต้องมาฟ้อง
จำเลยต่อสู้ว่าได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาเช่าข้อ ๓ ไม่ขัดต่อกฎหมายควบคุมค่าเช่า หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชนแต่อย่างใด เพราะเป็นข้อตกลงด้วยความสมัครใจ ถ้าผู้เช่าไม่ตกลงเช่นนั้น ผู้ให้เช่าก็อาจไม่ให้เช่าและเรื่องนี้ผู้ให้เช่าก็ได้แจ้งการขายให้ผู้เช่าทราบก่อนแล้ว แต่ผู้เช่าไม่ซื้อ และเมื่อได้ขายไปแล้ว ก็ได้บอกเลิกสัญญาเช่า นับว่าผู้ให้เช่าได้ปฏิบัติตามหน้าที่ตามสัญญาแล้ว
จึงพิพากษากลับ ให้จำเลยและบริวารออกจากสถานที่เช่า

Share