แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องว่า จำเลยได้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยมิได้ขออนุญาตก่อนตั้งจริง แม้จำเลยจะแก้ว่าเป็นการทดลองเครื่องเลื่อยไม่ได้เรียบร้อยแล้วจึงจะไปขออนุญาตตั้งทีหลัง ก็หาทำให้จำเลยหลุดพ้นจากความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาตไม่ กรณีเช่นนี้บรรดาเครื่องมือเครื่องใช้ที่ได้ใช้ในการกระทำผิดย่อมต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันตั้งโรงงาแปรรูปไม้และมีไม้หวง ห้ามโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๔๗, ๔๘, ๗๔ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๒, ๑๗, ๑๘ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓ และขอให้ริบของกลางอันมีเครื่องมือเครื่องใช้เครื่องจักรกลและไม้หวงห้ามชนิดต่าง ๆ ตามบัญชีท้ายฟ้องด้วย
ชั้นแรก จำเลยให้การภาคเสธ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์ไป ๑ ปากแล้ว จำเลยให้การใหม่ว่า จำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้จริงโดยมิได้ขออนุญาตก่อนตั้ง จำเลยตั้งใจว่าเมื่อลองเครื่องเลื่อยไม้ได้เรียบร้อยแล้ว จึงจะไปขออนุญาตตั้งทีหลัง และข้อหาฐานมีไม้โดยมิได้รับอนุญาตตามฟ้อง จำเลยก็ขอให้การรับสารภาพ สำหรับของกลาง จำเลยขออย่าให้ริบ เพราะโรงงานอยู่ในระหว่างทดลองเครื่อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง ของกลางตามบัญชีท้ายฟ้องให้ริบ
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยยังไม่มีความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ เครื่องจักรกลและเครื่องอุปกรณ์ยังไม่ควรริบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาว่า จำเลยได้สมคบกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้แล้วและคำรับของจำเลยมิได้มีความหมายที่จะแปลได้ว่าจำเลยตั้งโรงงานแปรรูปไม้ยังไม่สำเร็จ เพราะโจทก์ได้สืบพยานไปปากหนึ่งแล้ว ปรากฎว่าเจ้าพนักงานตรวจพบโรงงานแปรรูปไม้ของจำเลยได้แปรรูปไม้แล้วและมีไม้เลื่อยแล้ว ๑ มัด จำเลยจึงรับสารภาพว่าได้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้จริง เป็นแต่แก้ว่าทดลองเครื่อง ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยจะลองเครื่องหรือทำจริงก็ตาม เมื่อได้จัดขึ้นไว้เป็นที่ทำการแปรรูปไม้ ก็เป็นการตั้งโรงงานแปรรูปไม้แล้ว เมื่อไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘ บรรดาเครื่องมือเครื่องใช้ตามบัญชีของกลางท้ายฟ้องหมายเลข ๑ ถึง ๘ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงนับว่าเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่ได้ใช้ในการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๘ และต้องริบตามบทบัญญัติมาตรานี้ พิพากษายืน