คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55 ต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน วัตถุที่ต้องห้ามไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดกฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน การที่จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองขณะเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว
แม้จำเลยมิได้ฎีกาในปัญหาเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมก็ตาม ศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทให้ถูกต้องได้แม้ความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองยุติแล้ว เพราะต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง แต่คดียังไม่ถึงที่สุดศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นดังกล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรวมกันมีอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอกซองกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 6 ซอง และกระสุนปืนดังกล่าว 133 นัด กับลูกระเบิดแบบเอ็ม 12 จำนวน 1 ลูก อันเป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 38, 55, 78 ฯลฯ

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามฟ้องฐานมีอาวุธปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จำคุกคนละ 10 ปีฐานมีวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม จำคุกคนละ 6 ปีเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามจำคุกคนละ 4 ปี รวมโทษจำคุกคนละ 20 ปี

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสามฎีกาว่า จำเลยทั้งสามมิได้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและลูกระเบิดของกลางไว้ในครอบครองตามฟ้อง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เฉพาะกระทงความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ ส่วนกระทงความผิดฐานมีไว้ในครอบครอง ซึ่งอาวุธปืนและวัตถุระเบิดของกลางโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายนั้น ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยทั้งสามกระทำผิดดังโจทก์ฟ้อง แล้ววินิจฉัยต่อไปว่า ปรากฏว่าความผิดของจำเลยทั้งสามฐานมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะแต่ในการสงครามนั้น ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55 ต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน กล่าวคือ วัตถุที่ต้องห้ามดังกล่าวมิให้ผู้ใดมีในครอบครองนั้นไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนก็ดี เครื่องกระสุนปืนก็ดี หรือวัตถุระเบิดก็ดี กฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน ฉะนั้น การที่จำเลยทั้งสามมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกับวัตถุระเบิดซึ่งใช้เฉพาะการสงครามไว้ในครอบครองในขณะเดียวกัน จึงเป็นความผิดแต่กรรมเดียวหาใช่เป็นการละเมิดต่อกฎหมายหลายกระทงดังศาลล่างวินิจฉัยไม่ แม้จำเลยทั้งสามมิได้ฎีกาในข้อนี้มา ศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทให้ถูกต้องได้ และแม้ความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งเครื่องกระสุนปืน สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามยุติแล้ว เพราะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงก็ตาม แต่คดียังไม่ถึงที่สุด ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยถึงประเด็นดังกล่าวนั้นได้เช่นเดียวกัน

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522มาตรา 6, 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 10 ปี

Share