คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีไม้หวงห้ามทำเป็นซี่ล้อ ดุมล้อคันชักและฝักขามสำหรับประกอบเป็นล้อเกวียนและเกวียนเพื่อจำหน่าย เมื่อยังมิได้ประกอบเป็นล้อเกวียนหรือเกวียน จึงไม่อยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ คงถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 4

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันมีไม้สักแปรรูปอันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. และมีไม้ประดู่กับไม้เพียงอันเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 17 พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุกจำเลยคนละ 8 เดือน และปรับคนละ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปีของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์คืนของกลางให้จำเลย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสี่พร้อมด้วยไม้ของกลางมีวงล้อประกอบเสร็จแล้ว 2 วง แต่ละวงมีไม้สักปริมาตร 0.06 ลูกบาศก์เมตร ไม้ประดู่ปริมาตร 0.04 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งไม้ที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยมีไว้ในความครอบครองซึ่งมีไม้สัก (ฝักขาม) 176 เหลี่ยปริมาตร 0.528 ลูกบาศก์เมตร ไม้สัก (ซี่ล้อ) 378 ซี่ ปริมาตร 0.026 ลูกบาศก์เมตร ไม้ประดู่ (ดุมล้อ) 30 ดุม ปริมาตร 0.634 ลูกบาศก์เมตร ไม้เหียง (คันชัก) 5 กีบ รวมไม้สักมีปริมาตร 0.554 ลูกบาศก์เมตร ไม้ประดู่และไม้เหียงมีปริมาตร 0.710 ลูกบาศก์เมตร ไม้ดังกล่าวนี้เป็นไม้หวงห้ามและเป็นไม้ใหม่ทั้งสิ้น เห็นได้ว่าเป็นการประกอบล้อเกวียนและเกวียนไว้เพื่อจำหน่ายแต่ยังมิได้ประกอบเป็นล้อเกวียนหรือเกวียน วินิจฉัย ว่ายังไม่มีสภาพเป็นเครื่องใช้ คงเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมาย จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้องที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าของกลางเป็นของใช้สำหรับทำเกวียนเป็นเครื่องใช้นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share