แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม้สักของกลางจึงเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงต้องริบตามมาตรา 74 และโจทก์ไม่จำต้องบรรยายไว้ว่าไม้ของกลางเป็นไม้ที่จำเลยมีไว้หรือได้มาเนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้(อ้างฎีกาที่ 283/2496)
ย่อยาว
คดีนี้ จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ ฟังได้ว่าจำเลยบังอาจมีไม้สักแปรรูปเนื้อไม้ 2.83 เมตรลูกบาศก์ ไว้ในครอบครองในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่ตำบลป่าซาง อำเภอปากช่อง จังหวัดลำพูนโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปรับจำเลย 160 บาท ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73 เมื่อได้ลดโทษหนึ่งในสามที่รับสารภาพตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 ให้แล้ว แต่ไม่ริบไม้ของกลางโดยเห็นว่าไม้ที่จะพึงริบได้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 นั้นต้องเป็นไม้ที่ได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้มาก่อนแล้วมิใช่ได้มาหรือมีไว้เป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ก็จะริบด้วยได้ โจทก์มิได้บรรยายในฟ้องเนื่องจากกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้
โจทก์อุทธรณ์ว่า ความผิดในเรื่องนี้คือมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ โดยมิได้รับอนุญาต จึงต้องริบไม้ของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74 ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายความครบถ้วนตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ริบไม้ของกลาง
จำเลยฎีกาขอมิให้ริบไม้ของกลาง
ศาลฎีกาเห็นว่า ความในมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มีว่า “บรรดาไม้หรือของป่าอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ ให้ริบเสียทั้งสิ้น” ความผิดในเรื่องนี้ก็คือการมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองจำนวนเกิน 0.20 เมตรลูกบาศก์ โดยไม่ได้รับอนุญาตไม้สักของกลางจึงเป็นไม้ที่มีใช้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงต้องริบตามมาตรา 74 ฟ้องของโจทก์ไม่จำต้องบรรยายไว้ว่าไม้ของกลางเป็นไม้ที่จำเลยมีไว้หรือได้มาเนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้
พิพากษายืน